จุดไต้ตำตอ คืออะไร
ไม่รู้เหมือนกัน..555
ท่านให้คำนี้มา
อาจจะเป็นความรู้สึก..ตอนที่พี่พบความจริง
แล้วต่อมาอุทานกับตัวเองว่า...
หาแทบตาย..ที่แท้อยู่ตรงนี้เอง...จุดไต้ตำตอ..จริงๆๆ
อยู่ตรงนี้เอง
จุดไต้ตำตอ...จริงๆๆ
ใจในใจ...คือจุดไต้ตำตอ...จริง
เอาแค่ชาตินี้นะ..เรื่มสนใจปฏิบัติ..จริงๆ..ตอนปี 26
ไปฝึกมโนมยิทธิที่ซอยสายลม
แล้วมาทำจริงๆจังๆ..จริง..ตอนไปบวชปี 28
กว่าจะมาแจ้งใจ..ปี 55
เกือบ 30 ปี
แล้วถอยหลังจากชาตินี้..นับเวลาไม่ถ้วน
ไม่ต้องพูดถึง..ยาวนานมากๆๆ..ในการเกิด
วันที่จิตลอยออกจากกาย...ไปพบความจริง..จริง
แล้ววันต่อมา..หวนนึกถึง
จิตมันร้องไห้..ไม่ได้ร้องด้วยความทุกข์..เศร้าหมอง..อะไร
มันร้องเอง..ด้วยรู้สึกถึงความทุกข์ทรมาน
ในการเกิดอันยาวนานแสนนาน..เดินหาความจริง..จริง
และที่ผ่านมาทั้งหมดของการเกิด..แม้แต่ในชาตินี้
ถ้าเราเชื่อพระพุทธเจ้าท่านจริงๆ
วันนี้คงไม่มีกับเรา ที่มาเกิดจมอยู่กับกองทุกข์ในร่างกายนี้
เราทำมามากมาย..ทำแทบตายหามาแทบตาย..สุดท้ายแค่นี้เอง
ความจริงอยู่ตรงนี้เอง
จุดไต้ตำตอ..จริงๆๆ
นี่เราไปทำอะไรของเรามากมาย..ทำแทบเป็นแทบตาย.
เกิดไปสร้างเวรสร้างกรรมมากมาย
สร้างความทุกข์กายทุกข์ใจกับตัวเราเอง
สร้างกรรมทำร้ายจิตดวงอื่นมากมายในการเวียนว่ายตายเกิด
รู้สึก..สลดใจตัวเอง
รู้สึก..เสียดายเวลาที่ผ่านมาทั้งหมด
นี่เราไปทำอะไรของๆเรากัน
แล้วทำไมจิตเราดื้อรั้นขนาดนี้
ถ้าเชื่อพระพุทธเจ้า..เราคงนิพพานนานแล้ว
โธ่เอ๋ย...ความจริง..มีแค่นี้เอง
และอยู่ตรงนี้เอง
จุดไต้ตำตอ..จริงๆๆ
จิตเลยร้องไห้ออกมา..ช่วงเดือนก.พ.55
ข้างใน..จิตมันร้องไห้..เลยปล่อยให้มันร้องออกมา
มันรู้สึกถึงความทนมานใจในการเกิดมายาวนานแสนนาน
เดินหาความจริง..จริง ทำทุกอย่างมาแทบเป็นแทบตาย
โธ่..สุดท้ายแค่นี้ อยู่ตรงนี้เอง...จุดไต้ตำตอ...จริงๆๆ
ใจ..ใจในใจเราเองจริงๆ...คือความจริง
ตัวเราจริง...สุขจริง..นิพพานใจจริง..อยู่ตรงนี้เอง
ในตัวใจของตัวเราเอง..ใจในความจริง..จริง
หามาแทบตาย..ทำมันมามากมาย
สุดท้ายแค่นี้เอง...ใจในใจเราเองจริง
ที่คุย..พี่ไม่ได้หวังให้ใครเชื่อนะครับ อ่านสนุกๆกันไป
พี่คุยของพี่ตามสภาพของพี่ ตามที่ท่านให้หัวข้อมา
วันนี้ตื่นมามีคำนี้...จุดไต้ตำตอ...ครับ
ความจริง..เรื่องกาย.กับ.ใจ...พี่เห็นชัดตั้งแต่ปี.26
แต่นั่นแหละขาดตัวเข้าใจจริง
และตัวเอาจริงในสุขใจจริงของใจจริง
ตั้งแต่กลับมาจากฝึกมโนมยิทธิที่ซอยสายลม..ปี26
กลับมาบ้าน..หลังจากนั้นก็ทำเอง
จับภาพพระ..จับคำภาวนา..พิจารณาตามหนังสือหลวงพ่อท่าน
แต่ที่มีผลจริงๆ..ตอนเผลอ
ตอนตั้งใจอยากทำเพื่อให้ได้..ผลไม่มี
มีแต่อารมณ์ตึงๆ ตั้งใจมากเกินไป
ผลกลับมีตอนเผลอ ทำสมาธิตึงไป พอตั้งใจขอพักหน่อย
ปล่อยใจสบายๆ จิตกลับหลุดออกจากร่างกาย
นี่ตลกดี..มีผลตอนใจสบายๆ ตอนตั้งใจทำ..ผลไม่มี
ตอนนั้นเป็นครั้งแรกเลยที่จิตหลุดออกมาจากกาย
มองตัวเอง..ไม่เห็น ไม่มีรูปร่าง ว่างๆ
ตัวตนไม่มี มีแต่ความรู้สึกว่านี่คือเรา
หันไปมองก็เห็นร่างกายมันนั่งพิงข้างฝาห้อง
มันกับเรา..แยกกัน
ตอนนั้นก็เห็น..แต่น้อ
ความโง่ของเรา ไปมองว่านี่ผลของสมาธิ
ไม่ได้กลับมาดูในความจริงตามคำสอนของพระท่าน
ว่าใจกับกาย มันเป็นคนละส่วนกัน
สิ่งนี้มีกับพี่..ตั้งแต่ปี 26
ออกจากร่างกาย..ตัวตนไม่มี
มีแต่ความรู้สึกว่าง..สงบ..อิสระ..สบายใจ
มีแค่นี้ในตัวเราเอง ตอนแยกออกจากร่างกาย
แล้วก็ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง ไม่ถามใครว่านี่คืออะไร
ติดสนุกตอนนั้นในเรื่องทำสมาธิ รู้สึกเจออะไรแปลกๆๆดี
มีทั้งเจอเทวดานางฟ้าท่านมาให้เห็น
มาไม่มาเปล่า มาแกล้งอีกต่างหาก
เลยกลายเป็นเรื่องสนุกดี
ช่วงนั้น ยังๆ..555...ยังทนทุกข์ได้
เลยไม่เอาสิ่งนี้ของจิตเป็นตัวเดินจริง
เข้าหาความจริงและใจสุขใจจริงของใจจริง
ตอนนั้นมุ่งทำสมาธิจิต..สนุกๆของตัวเอง
ด้วยความอยากรู้ของตัวเอง
มาทำจริงๆจังๆ..ตอนมาบวชปี 28
แต่ตอนนั้นติดโง่เยอะมากๆ เอาตามตำราอย่างเดียว
คิดเองเออเอง อ่าน ฟัง แล้วมาทำเอง
แม่งโคตรโง่จริงๆ ตัวเองรู้ไม่จริง
แล้วเสือกเอาคำสอนของท่าน..มาคิดเองเออเอง.. มาทำ
เนี่ยผ่านมาแล้วในสิ่งนี้
กว่าจะมายอมพระท่านอย่างหมดใจจริง ต้นปี 55
ทนความทุกข์ของจิตต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ
หมดความปรารถนาจะทำอะไรเพื่ออะไรทั้งหมดจริง
ตัวอยากได้อะไร..ทำแล้วได้อะไร..ถึงอะไร
สำเร็จอะไร..จะอะไร..ไม่มีในใจตอนนั้น
มีอย่างเดียวจริง ต้องการมีใจ..ใจสบายใจที่สุดจริง
จริงของใจเราเองจริง
ทุกข์ของใจแม้สักนิดหนึ่ง เราก็ไม่ต้องการมีสิ่งนี้อีกต่อไป
ในภายในของใจเราเองจริง
ตอนต้นเดือนก.พ.55
ในใจรู้สึกอย่างนี้จริง
ใจมีใจตั้งใจจริง ต้องการใจสบายใจของใจจริงอย่างเดียวจริง
เรื่องอื่นไม่เอา
การที่ต้องทนทุกข์ของจิต ทุกข์จากการเกาะยึดแม้สักนิดหนึ่ง
เราไม่ต้องการมีในสิ่งนี้อีกต่อไป
ไม่เอาแล้วในทุกข์ของจิต...จริง
ใจเราต้องการจริง..ในความเป็นอิสระจริงของใจเราจริง แค่นี้
พี่ต้องการของพี่จริงๆ...แค่นี้...
อิสระใจ..จริง
จริงในความจริง..จริง
เราจึงกลับมาหาความจริง..จริงๆ
ว่าจริงคืออะไรจริง..จริงในความจริง..จริงๆ
จุดไต้ตำตอ
คุยไปเรื่อยเปื่อยน้อ..คนบ้าๆคุย
ก็คุยสบายๆของคนบ้า
ก็สบายใจดี...ว่ามันไปเรื่อยๆๆ..
ที่ผ่านมาทั้งหมดของชีวิต
ของการเกิดมาทั้งหมดนับชาติไม่ถ้วน
ทำมาแทบเป็นตาย
สิ่งนี้ที่พี่เห็นในความผิดพลาดของตัวพี่จริงๆ
ขาดแค่นี้ในใจของใจพี่จริง..แค่นี้จริงๆ
ที่พาเกิดมายาวนานแสนนาน
ไปหลงทำอยู่แต่ภายนอก..ทั้งทางโลกและทางธรรม
ทำมันมาทุกอย่างมานับชาติไม่ถ้วน
...เราขาดแค่นี้เอง...
"ตัวเข้าใจจริง..จริงในความจริง..จริง"
"ตัวเอาจริง...จริงในความจริง..จริงในใจ
ใจสุขใจของใจจริง..ในความจริง..จริง"
ขาดจริงๆ..ขาดอยู่แค่นี้
จึงพาจิตหลงเกิด..หลงทุกข์..มายาวนานแสนนาน
ทรมานกาย.ทรมานใจแสนสาหัสในการเกิด
สุดท้ายสิ่งที่เจอในความจริง..จริง
จุดไต้ตำตอ..จริงๆๆ
ไม่ได้อยู่ที่ตรงไหน..อยู่ในภายในของใจเราเอง..จริง
นี่เอง..ความจริง..จริง..ใจสุขจริงของใจตัวเองจริง
นิพพานธรรมจริง..มีอยู่ตรงนี้เอง
ในภายในของใจเราเองจริง
หามาแทบเป็นแทบตาย ดิ้นรนทำ
แสวงหา..ปฏิบัติทำมามากมายทุกอย่าง
สุดท้ายมีแค่นี้เอง อยู่ตรงนี้เอง..จุดไตัตำตอ...จริงๆๆ
ทำไมเราไม่เชื่อพระพุทธเจ้าท่าน ที่ทรงสอนไว้แล้วว่า..
ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่..ใจประเสริฐสุด..สำเร็จที่ใจ
หลวงพ่อท่านก็เมตตาพี่ สอนพี่ว่า
ท่านทำเพียงแค่นี้ ดูใจตัวเอง ตอนวันออกพรรษาปี35
แม้แต่พระอรหันต์ที่นิพพานไปแล้ว ท่านก็มาสอนพี่
ตอนนั้นปี37 มีพระที่ท่านนิพพาน ท่านมายืนให้เห็น 4 องค์
แล้วท่านบอกกับพี่ว่า นับแต่นี้ท่านจะสอน
แล้วท่านมาทุกวันตอนกลางคืน มาสอน
บอกสั้นๆๆ คำสอนสั้นๆ..แล้วท่านก็หายไป
เราก็เอาคำนั้นของท่านมาทำ พอเริ่มเข้าใจบ้าง
กลางคืนท่านก็สอนต่อ บอกสั้นๆเหมือนเดิม
เป็นอย่างนี้ทุกวัน ร่วมเดือน
มีวันหนึ่งนอนอยู่ตื่นมาตอนดึก
ลืมตาเห็นพระท่านเดินทะลุประตูห้องเข้ามา
ท่านเป็นพระอรหันต์นิพพานแล้ว
เดินมาที่พี่นอน ก้มลงมาหา
แล้วท่านเอามือท่านวางที่หน้าอกพี่
ท่านบอกว่า ตัวเราจริงๆคือใจ..ใจเป็นนามธรรม..
ไม่มีรูป..ว่างไม่มีขอบเขต..
ร่างกายนี้มันไม่ใช่เรา..ไม่ใช่ของๆเรา
ท่านเอามือท่านวางที่หน้าอกพี่ แล้วก็พูดเรื่องนี้
พอท่านพูดจบ
ในใจพี่รู้สึก..ว่างไม่มีขอบเขต..จริง
เป็นเหมือนท่านบอกจริงๆ ในความรู้สึก
ตัวเราไม่มี...ไม่มีรูป..ว่างไม่มีขอบเขต
มีแต่ความรู้สึก..สงบ..อิสระ..สบายใจเองจริง
มีแค่นี้ตามท่านบอกจริงๆๆ
แล้วท่านก็หายตัวไปต่อหน้าพี่เลย
แต่น้อ..โรคโง่เยอะ ติดตำรา
เอามาทำแบบโง่ๆตามความคิดเห็นของตัวเอง
ที่รู้จริง..ไม่จริงตามพระท่านจริง
ขนาดท่านเมตตามาสอนขนาดนี้
ขนาดมีพระอรหันต์มาสอนทุกวัน.น้อ
ยังหาจุดจบตัวเองจริงๆ ไม่ได้
ก็ติดพิจารณาภายนอก ทำสมาธิจิต
ติดตัวคิด..ตัวทำ
แต่ก็พอเริ่มเข้าใจอะไรบ้างตามท่านมาสอน
จนมาวันหนึ่ง พระที่ท่านเมตตามาสอนพี่
ท่านมาตอนกลางคืน ท่านมาพูดว่า
ที่เธอทำมาทั้งหมด..มันอ้อม
ทางตรงมีทางเดียว...ใจตัวเดียว
ท่านพูดแค่นี้แล้วท่านก็หายไป
ก็พอเข้าใจในความหมายที่ท่านพูด
แต่นั่นแหละยังติดตัวอยากดี..อยากสำเร็จ
อยากถึง..ยังติดในความปรารถนาดี
อยากช่วยงานพระท่าน อยากช่วยคน
ทั้งๆที่บางครั้ง จิตหลุดออกจากกาย
ของพี่แปลก ออกมาตัวตนไม่มี..ไม่มีรูปมีร่าง
มีแต่ว่างๆๆ และมีความรู้สึกว่านี่คือตัวเรา
และก็เห็นชัด มองเห็นร่างกายกับตัวเรา คนละส่วนกัน
สมัยบวชใหม่ๆ ชอบทำสมาธิจิต มันรู้สึกสนุก
ก็เลยชอบทำ บางครั้งเคลื่อนออกจากกาย
เหาะขึ้นท้องฟ้า เหาะเที่ยวไปเรื่อย
ก็ไม่เห็นตัวเองมีรูปร่าง ว่างๆเหมือนเดิม
พออยากเห็น ยื่นแขนเหาะเหมือนซุปเปอร์แมน
กลับเห็น..แขนเป็นเพชรระยิบระยับเต็มไปหมด
เป็นร่างกายพระวิสุทธิเทพ พอนึกว่ามี..ก็มี
เนี่ยก็เห็นชัด
แม้แต่ตอนปี 47 นอนใต้ถุนบ้าน
ที่บ้าน ที่เคยเล่า
ตั้งใจทำสิ่งนี้ให้แม่ ครบรอบวันตายของแม่
เห็นตัวเองว่างๆๆ
เห็นจิตเป็นอณูธาตุเล็กๆมากมายเต็มไปหมด
เป็นธาตุจิต เห็นร่างกายนั่งพิงข้างฝาห้อง
เห็นเป็นสามส่วนนี้ชัด
เห็นแม้กระทั่งตัวว่างๆ ของเราจริงๆ มาจากไหนจริง
ด้วยความสงสัยต้องการรู้ อยู่ๆ.หลุดลอยขึ้นไป
ทะลุหลังคาบ้าน ผ่านดวงดาวมากมาย
ลอยจนถึงสุดขอบจักรวาล
จนไปพบที่หนึ่ง..ว่างมหาศาล..ไม่มีอะไรเลยจริง
เป็นธรรมชาติว่างมหาศาลอย่างเดียวจริง
แล้วรู้สึกว่า ตัวเราว่างๆ..ในความจริง..จริง
เริ่มต้นจริงๆ..มาจากสื่งนี้ ธรรมชาติว่างมหาศาลนี้จริง
พอรู้สึกอย่างนั้น เลยรู้สึก
เรากับธรรมชาติว่างมหาศาลนี้ มันเป็นเนื้อเดียวกัน
พอรู้สึกอย่างนี้ ตัวเราลอยไปรวมเป็นเนื้อเดียวกับสิ่งนี้
รู้สึกชัด...อิสระ..สบายใจที่สุดจริง
ใจว่างมหาศาล..อิสระที่สุดจริง
ในสิ่งนี้ของใจเราจริง
แล้วก็ลอยกลับเข้าร่างกายเหมือนเดิม
เนี่ยก็ไปพบมาแล้วด้วยตัวของตัวเราเอง..ตั้งแต่ปี 47
แต่ก็ไม่เคยเล่าให้หลวงพี่ท่านฟัง
นิสัยเสีย ต้องการหาด้วยตัวเองอย่างเดียว
ติดในความโง่เหมือนเดิม
เอาความคิดเห็นเป็นตัวเดินเหมือนเดิม
ทั้งๆที่หลวงพี่ตอนนั้นท่านก็สอนพี่มาว่า
ทิด..ละอะไรไม่ดีเท่าละทิฐิมานะ
เราก็ฟังท่านบอก แต่กลับไม่ถามท่านว่า
ทิฐิมานะจริงๆ คืออะไร
ก็ไปยึดว่า มันคงเป็นเรื่องของการคิดว่า
เราดีกว่าใคร..เราเลวกว่าใคร..เราเสมอกัน
ไปคิดเองเออเองในสิ่งนี้
กว่าจะชัดใจว่า จริงๆ..
คือต้วคิดเห็น...ตัวคิด.คือทิฐิมานะ
ถ้ายังเอาสิ่งนี้เป็นตัวเดินของใจ
ไม่มีทางพบความสุขใจของใจตัวเองจริง
กว่าจะทิ้งในสิ่งนี้ได้จริง
ตอนทนทุกข์ต่อไปไม่ไหวแล้ว
ยอมพระองค์ท่านจริง
วางใจตามท่านจริง
ไม่คิดเองเออเองอีกต่อไป
ใจอยู่ว่างๆในความรู้สึกว่างๆอย่างเดียว
ยอมท่านจริง ท่านว่าไงว่าตามท่านจริง
มายอมจริงตอนต้นปี 55
ทั้งๆตอนปี 53 สมเด็จพ่อองค์ปฐมเสด็จมาสอนพี่
ท่านสอนว่า...
ลูกรักของพ่อ...ใจคือความรู้สึก
สอนแค่นี้แล้วท่านก็หายไป
พี่คนพิเศษน้อ..
ไม่มีท่านใดมาสอนแจงแบบละเอียด
ให้หัวข้อสั้นๆๆ...แล้วให้พี่หาเอง
ท่านรู้นิสัย สันดานพี่ไม่ดี
ทุกอย่างต้องพบด้วยตัวเองจริง
จึงเชื่อ จึงยอมจริงน้อ...
ที่คุยทุกวัน ก็มาจากสิ่งนี้
เราพบด้วยตัวเราเองจริง
เราคุยตามความรู้สึกจริงของใจเราจริง
ในหัวไม่มีอะไร...ตำราไม่มี
แล้วเวลาท่านให้คุย..ให้แค่นี้
หัวข้อสั้นๆๆ
พี่ก็นี่แหละ..คุยมั่วๆของพี่
ว่าไปตามความรู้สึกของใจ
มาไงไปงั้นเลย
แต่ไม่ได้มั่วในใจ
เราคุยด้วยใจสงบสบายใจ
อิสระใจในนิพพานของใจเราเองจริง
เราคุยจากในความรู้สึกในใจ ของใจสมเด็จพ่อองค์ปฐมท่าน
คุยจากในใจของท่าน ในความรู้สึกในใจท่านจริง
แต่ถ้ามีผิดพลาดอะไร ของพี่เอง
และคำพูดบางคน..พี่ใช้สำนวนของพี่อีกที
แต่ความหมายไม่ได้ไปเปลี่ยนของท่าน
ครับ..คุยอะไรเนี่ย..เรื่อยเปื่อยวันนี้
คำสอนของพระท่าน พี่ไม่ค่อยคุย เพราะอะไร
ต่างคนต่างก็รู้เยอะอยู่แล้ว
คำสอนของหลวงพ่อท่านสอนไว้ดีหมดแล้ว
หลวงพี่สุดยอดแล้ว คำสอนของท่านละเอียด
ท่านสอนไว้ดีหมดแล้ว
พี่เป็นใคร..เป็นฆราวาสแก่ๆคนหนึ่งที่นิสัยไม่ดี
ยังเอาตัวเองยังไม่รอด
ยังยืนอยู่ปากขุมนรกอยู่เลยทุกวันนี้
ครับ..ที่คุยทุกวันนี้...พี่ไม่ได้สอนใคร..จริง
พี่พูดบอกเสมอๆๆๆ พี่คุยเล่นๆๆ
ให้อ่านเล่นๆ กัน เพลินๆ สบายๆ ใจกัน
และพี่มีประสบการณ์ของพี่ที่ทำมาแทบตาย
ทำมาหมดทุกอย่าง
ทั้งบุญ..เราก็ทำมามากแล้ว
สมัยอยู่กับหลวงพ่อก็ทำร่วมกับท่านทุกอย่าง
หนังสือธรรมะของวัด พี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำ
ลอกเทปพิมพ์ต้นฉบับหนังสือ ทำมาหลายปี
ทั้งงานในวัด งานแจกของต่างจังหวัดกับหลวงพี่
ถึงไปไม่มากแต่ก็หลายครั้ง
งานทำให้คนอื่นเป็นสุข ทำมาแทบเป็นแทบตาย
เหนื่อยทำให้คนอื่นอย่างเดียว
งานทางใจ กรรมฐานเราก็ทำมาทุกอย่าง
สมาบัติ 8 เราก็ทรงมาตลอด
จิตออกจากกายก็หลายครั้ง
สุดขอบจักรวาลนอกโลก เราก็ไปของเรามาแล้ว
พระนิพพาน เราก็หลุดออกขึ้นไปแบบเต็มกำลังมาแล้ว
สัมผัสนิพพานชัด
สุขในนิพพานจริงเป็นยังไงจริง เราสัมผัสมาแล้ว
ความจริง ตัวเราว่างๆ..ไม่มีอะไรเลย
เราก็เห็นในสิ่งนี้นับครั้งไม่ถ้วน
ออกจากร่วงกายทุกครั้ง ตัวเราไม่มี
เราเห็นแม้กระทั่ง จิตเป็นคนละส่วนกับตัวรู้ ว่างๆของเรา
จิตเป็นอณูธาตุเล็กๆๆมารวมตัวกัน
อยู่ร่วมกับเรา แต่คนละส่วนไม่ใช่เป็นเนื้อเดียวกัน
เราก็เห็นของๆเรามาแล้ว
ตัวเราว่างๆ มาจากธรรมชาติว่างมหาศาล
เราก็ไปพบด้วยตัวของเราเองจริงมาแล้ว
ทุกอย่างเราทำของๆเรามาหมดแล้ว
ยื่งกว่าใครบางคนที่ขี้คุย
คุยแม่งเก่งจริงในตำรา
ของจริงไม่ได้จริง แล้วเสือกหลงตัวเอง
คนอย่างนี้เยอะมาก
พอเราคุยความจริง มันก็ว่าเรา
เออ...ไม่มีอะไรหรอก..แหย่เล่นๆ55
เข้าใจ..คนเราเห็นในสิ่งที่เห็น..ไม่เหมือนกัน
พี่เห็นของๆพี่ยั่งงี้
พระที่ท่านมาสอนพี่ ท่านก็มาจากนิพพาน
เราจึงได้รับคำสอนจริงจากท่านที่ถึงแล้วจริง..จริง
วันนี้คุยตรงๆน้อ
จะให้รู้ว่า..ทำมาขนาดนี้
ทำมาแทบเป็นแทบตาย
ทำมาทั้งหมด..ในทุกๆอย่าง
สุดท้าย..จริงๆ มีในตัวใจเราเอง
ในภายในของใจเราเองจริง
ที่ผ่านมา..เอาแต่หาจากสิ่งภายนอก
ทำมาหมดทุกอย่าง ทำมานับชาติไม่ถ้วน
ไม่ได้อะไรจากมันเลย ในสิ่งที่เป็นของจริง
เป็นความจริง เป็นสุขจริงของใจตัวเราจริง ไม่มี
พี่ถึงบอก..บางอย่างพี่ทำมามากกว่าทุกคน
ทำแบบหาด้วยตัวเองจริง
ต้องรู้ด้วยตัวเองอย่างเดียวจริง
ต้องเห็นด้วยตัวเองจริงๆ..จึงเชื่อ.จึงยอมจริง
และหาในสิ่งที่หา..ไม่เหมือนใคร
คนอื่นเขาหาทางพ้นทุกข์ หาแค่ในโลกนี้
พี่ไม่ใช่
ต้องการรู้จริง
ว่าจริงๆ..ในความจริง..จริงๆ คืออะไรจริง
พี่หาสิ่งนี้ ความจริง..จริง
จึงไม่เดินตามใคร ด้วยไม่มีใครให้สิ่งนี้กับเราได้
เราจึงเกิดมาถึงสมัยนี้ เกิดมายาวนานแสนนาน
ท่านบอก พี่เกิดผ่านพระพุทธเจ้านับแสนพระองค์
ลูกเดินเหมือนพ่อ หาความจริง..จริง
และพี่เดินหาสิ่งหนึ่งของพี่
หาว่าทำยังไง..จึงไปนิพพานง่ายๆจริง..ง่ายที่สุดจริง
หาสื่งนี้มาด้วยตัวของตัวเอง
หาความจริง..จริง
หาวิธีทำให้ถึงง่ายๆ เพื่อให้ทุกดวงจิตจริง
ครับ..เกิดซ้ำเกิดซากนับนับชาติไม่ถ้วนเพียงแค่นี้จริง
วันนั้นจิตข้างใน..ร้องไห้ออกมาเอง
ด้วยอะไร
โธ่เอ๋ย..ทำมาแทบตาย
แค่นี้เองหรือ....ความจริง
จุดไต้ตำตอ..จริง มีแค่นี้เองหรือ
นี่เราไปทำอะไรมามากมายนับชาติไม่ถ้วน
จริงๆ..มีแค่นี้เองหรือ
ใจตัวเดียว..จริง
ใจในความจริง..จริง
ใจในความรู้สึกจริงของตัวใจเราจริง
มีแค่นี้เองหรือ ความจริง..จริง
และมีในภายในของใจเราเอง นี่เอง
นี่เราไปทำอะไรมากมายในการเกืดของเราน้อ
จุดไต้ตำตอ
คืออะไร ใครตอบได้ไหม
คือตัวเราเองจริง..จริงในความจริง..จริง
จิตในจิต..ที่หลวงปูดุลย์ท่านสอน
ในภายในเราจริง คือตัวธรรมจริง
คือความจริง
คือสุขจริงของใจจริงในความจริง..จริง
สิ่งนี้จริงของใจในความจริง
พาใจเราลอยสู่จริง จริงในความจริง จริงในสงบนิพพานจริง
ในธรรมชาติว่างมหาศาลจริง
จริงตามดวงใจพระทุกดวงใจ..จริง
จุดไต้ตำตอ..อยู่ในภายในของตัวเราเอง
ทำมาแทบตาย..โธ่เอ๋ย...ไม่น่าเลย
ไม่น่าโง่เลย
ไปทำ..ไปวุ่นวาย..ทำอะไรกันมากมายมานับชาติไม่ถ้วน
สิ่งที่ดีที่สุด..มีค่าที่สุด..เป็นเราจริง..เป็นความจริง
เป็นสงบสุขใจของใจเราจริง..เป็นตัวธรรมจริง
เป็นนิพพานธรรมจริง อยู่ในตัวใจเราเอง
น่าเจ็บใจน้อ..
ทำไมเราถึงโคตรโง่ยังงี้
ไม่เชื่อพระพุทธเจ้าท่านจริง
ในคำว่า..ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่
ตัวเราจริงๆๆ คือใจ
ทำไมไปหาอะไรดิ้นรนอะไร มานับชาติไม่ถ้วน
ไปจมอยู่กับกองทุกข์
กระดูกของการเกิดมีร่างกายรวมกันแล้วสูงเป็นภูเขาหลายลูก
ตกนรกมานับชาติไม่ถ้วน
เป็นเปรตเป็นอสุรกายมามากมายนับชาติไม่ถ้วน
เป็นสัตว์เดรัจฉานแทบทุกชนิดมานับชาติไม่ถ้วน
ไปสร้างกรรม..กรรมทางกาย..ทางวาจา..ทางใจ
สร้างความทุกข์ทรมานกายทรมานใจกับดวงจิตมากมาย
เพียงแค่นี้เองหรือ...เรา..เราไม่รู้จักตัวใจเราจริง ในความจริง..จริง
เราไม่เชื่อพระพุทธเจ้าท่านจริง..ในคำสอนของพระองค์จริง
จึงเป็นยั่งงี้
มันทรมานใจดีจัง กับความโง่ของตัวเราเอง
ทั้งๆความจริง..สุขจริง..ตัวเราจริงๆ
มีอยู่จริงในภายในของตัวเราเอง
นี่เราไปอะไรของๆเรา...น่าสงสารตัวเอง...จริงๆ
วันนั้นจิตร้องไห้ออกมา ในความรู้สึกตรงนี้
จุดไต้ตำตอ..อยูในใจของใจเราเอง
เราไปทำอะไรของเรา
น้อ..มันช่างน่าสงสารตัวเอง..จริงๆๆ
เราผ่านมาแล้ว เราจึงเห็นใจทุกคน
ในสิ่งที่เขายังไม่เห็นจริงในความจริง..จริง
เราจึงกลับมาคุยความจริง..ตามท่านให้คุยทุกวัน
จะมีใครบ้างไหม..ที่มีใจเชื่อใจเราจริง
เชื่อใจใจรักจริงของใจเราจริง
เชื่อในความจริงใจจริงของใจเราจริง
เราหาของเรามาด้วยความทุกข์ทรมานกาย
ทรมานใจแสนสาหัสมายาวนานในสิ่งนี้
นับตั้งแต่พ่อของเรา...ยังไม่บรรลุธรรม
เราทำของเรามา..เราหาของเรามา
ด้วยตัวของเราเองจริง
จนพบความจริง
จุดไต้ตำตอ
อยู่ในภายในของตัวใจเราเองจริง
เราจริงๆคือใจ
เราจริงๆคือความรู้สึก
ลึกๆในภายในจริงคือตัวเราจริง
ว่างไม่มีขอบเขต..สงบ..อิสระ..เบิกบาน
สิ่งนี้จริงในภายในจริง คือตัวของตัวเราเองจริง
นอกนั้น มันไม่มีอะไรเป็นเรา..เป็นของๆเรา
เราไม่มีในมัน..จริง
มันไม่มีในเรา..จริง
สิ่งนี้จริงของใจ ในความรู้สึกว่างๆๆ คือตัวเราจริง
เราก็คุยของๆเราอย่างนี้ทุกวัน
แยกชัด..กายกับใจ..คนละส่วนกันจริง
บอกทางเดินจริงของใจ ใจอยู่จริงยังไงของใจจริง
จึงสงบสุขใจจริง
จึงถึงจริงในใจพระองค์จริง
จึงอยู่จริง..จริงเองจริงในนิพพานจริง
ทุกอย่างเราบอกของๆเราหมดแล้ว
จริงไหม
งั้นในเมื่อบอกหมดแล้ว
วันนี้จงกลับมาดูเอง
จุดไต้ตำตอของทุกคนจริง
อยู่จริงตรงไหนจริง หาเอง
จุดจบจริงของใจตัวเองจริง ในความจริง
ในสงบสุขใจของใจตนจริง
ในความรู้สึกจริงของใจ..ใจถึงใจพระท่านจริง
ในจุดจริงของใจ
ใจถึงจริงในสงบนิพพานจริงของใจตัวเองจริง
หาเอาเอง
พี่บอกทางไว้หมดแล้ว
คนเราต้องกลับมา มาดูด้วยใจตัวเองจริง
ใจเห็นจริง ใจเข้าใจจริงเองจริง
ใจเอาจริงเองจริงในสิ่งที่ดีที่สุดจริงของใจตนจริง
ใจยอมพระท่านจริง
หมดสงสัยจริงในคำสอนของพระองค์ท่านจริง
นั่นแหละถึงเอง
นิพพานเองจริง
ด้วยใจของใจเราเองจริง
ขอบคุณครับ
พอเข้าใจน้อที่คุย
จุดไต้ตำตอจริง มีอยู่จริงในภายในของตัวใจเราเองจริง
เราให้ความจริง เราประกาศจริงในความจริง..จริง
ใครเชื่อหรือไม่เชื่อ พี่ไม่สนใจ
เราเห็นประโยชน์สุขจริงของใจ..ใจในใจกัน
เราจะคุยของๆเราในเรื่องของใจ จนวันตาย
คุยทิ้งเป็นชาติสุดท้าย
เราไม่เกิดแล้ว นี่คือของจริง
และเราคุยแล้ว..ใครจะเอา..ไม่เอา
ก็แล้วแต่..ตามสบาย
เราจะคุยตามพ่อให้คุย
เรื่องของพี่จริง..มีแค่นี้
เรารับปากพ่อของไว้ ในสิ่งนี้กับพ่อของเรา
ให้ความจริง
ขอบคุณนะที่อ่านกันทุกวัน
จาก เฟสกลุ่มมงคลธรรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น