วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ใจธรรมดาจริงคือใจ..ใจไม่ทุกข์

ใจธรรมดาจริงคือใจ..ใจไม่ทุกข์
ใจในความจริง..จริง คือใจ..ใจสุขใจจริง
นี่คือความจริงของใจ ใจในความจริง..จริง

เรามองย้อนกลับไปในวันที่เราได้เห็นความจริง ความจริงของตัวใจเราเองจริง ๆ ได้เห็นชัดจริงว่าใจกับกายเป็นคนละส่วนกันจริง ได้เห็นชัดจริงว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญานเป็นคนละส่วนกันจริง จริงกับความจริงของตัวใจเราจริง เรามีเรา เรามีจริงแค่เรา เราในความจริง..จริง จริงมีจริงแค่ใจ ใจตัวเดียวจริง จริงในความรู้สึกว่าง ๆ ว่างไม่มีขอบเขต รู้สึกถึงความสงบเย็น ๆ อิสระอย่างยิ่ง เบิกบานใจจริง จริงในสิ่งนี้ของใจตัวเราเองจริง ใจในความจริง..จริง

เราจึงเห็นในของ ๆ เราชัดใจจริง นี่คือความเป็นปกติธรรมดาของใจ ใจในความจริง..จริง ในธรรมชาติจริง จริงของตัวใจเราเองจริง

เราเห็นของ ๆ เราอย่างนี้ เมื่อต้นปี 55

วันที่เรารู้สึกเหนื่อย เหนื่อยกับการเกิดมายาวนานแสนนาน รู้สึกถึงความทรมาน ทรมานกาย ทรมานใจในภพชาติการเกิดของตัวเอง ในสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านมาทั้งหมด ล้วนเป็นความโง่ของจิตตนทั้งสิ้นที่หลงยึดในสิ่งต่าง ๆ พาหลงเวียนว่ายตายเกิดมายาวนานแสนนาน ทรมานใจเราเองจริง ๆ

ไปเกิด ไปยุ่ง ไปสร้างเวรสร้างกรรมมากมาย อยาก ดิ้นรน แสวงหา ปรารถนา ดุจดั่งคนบ้าขาดสติ ไม่มีจิตเชื่อจริงในคำสอนของพระพุทธเจ้าท่านจริง เลยหาความสงบสุขใจของใจจริง จริงตามพระท่านจริงไม่มี

เรามองตัวเราที่ผ่านมาทั้งหมด เป็นเหมือนคนบ้าขาดสติ ไม่กลับมาดูจริง จริงในความจริง..จริง จริงตามพระท่านจริง

เรามองคนทั่วไป ต่างคนต่างเป็นเหมือนคนบ้า บ้าทรัพย์ บ้าเงินบ้าทอง บ้ามัวเมาในรูปกาย บ้าผูกพันหลงใหลเกาะยึดกาย บ้าทะเลาะ บ้าด่ากัน บ้าเอาอะไรกันในสิ่งที่มันไม่ใช่ของจริงที่มีจริง บ้าเรื่องโลก ๆ บ้าเรื่องคนอื่น บ้าวุ่นวายในสิ่งต่าง ๆ บ้าหาทุกข์ใส่ตัว บ้าสร้างเวรสร้างกรรมกลับมาทำร้ายใจตัวเองกัน

เรามองตัวเรา เรามองคนอื่น เรามองคนในประเทศ เรามองคนต่างประเทศ ล้วนหาคนปกติที่มีใจ ใจสงบจริงไม่มี มีแต่ความวุ่นวาย เร่าร้อน เศร้าหมอง เป็นทุกข์ ทุกข์อยู่กับเรื่องโลก ๆ เรื่องขันธ์ ๕ ร่างกาย เรื่องที่ต้องตายไปจากมัน มีแต่จิตมีความอยาก อยากในสิ่งที่ต้องตายไปจากมัน จากโลกนี้ไป จากร่างกายนี้ไป จากประเทศนี้ไป จากบ้านเรือนที่อาศัยอยู่ จากทรัพย์สินเงินทอง จากสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมด จากร่างกายคนอื่นทั้งหมด ต้องจากสิ่งเหล่า ๆ นี้ไป ไปด้วยความตาย ร่างกายพังเน่าเปื่อย แตกสลายกลายเป็นความว่างเปล่า หาอะไรเป็นเรา เป็นของ ๆ เราจริงไม่มี แล้วต่างยึดต่างถือเอาสิ่งนี้เป็นเรา เป็นของ ๆ เรากัน นี่มันบ้าขาดสติ ไม่มองในสิ่งนี้กัน เลยบ้าในร่างกายนี้ บ้าร่างกายคนอื่น บ้าสิ่งของวัตถุต่าง ๆ บ้าทะเลาะด่าทอตำหนิติเตียนกัน สร้างกรรมทำร้ายกัน หาความเป็นปกติสงบใจจริงกันจริง ๆ ไม่มี

ลองมองตามดู จริงไหม คนเราเกิดมาเท่าไหร่ตายหมดเท่านั้น ต่อให้มีอำนาจวาสนาแค่ไหน ร่ำรวยมากมายแค่ไหน หล่อสวยแค่ไหน ดิ้นรนวุ่นวายมากมายแค่ไหน สุดท้ายแม่งมันก็ตาย ตายไปจากสิ่งเหล่า ๆ นี้ แม่งจะวุ่นวายเอาอะไรในของ ๆ มัน ความตายเป็นของเที่ยง มันตายแน่ แต่กลับวุ่นวายกลับสิ่งที่ต้องจากมันไป สติดีหรือเปล่าทำไมมองไม่เห็นในสิ่งนี้กัน ขาดปัญญาหรือเปล่าทำไมมองไม่เห็นจริงในสิ่งนี้กัน ต่อให้เล่าเรียนสูงแค่ไหน จบด๊อกอะไรมาก แม่งก็โง่ โง่ที่ไปยึด ไปยุ่ง ไปเอา ไปวุ่นวายในสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องไปจากมัน จากร่างกายนี้ จากร่างกายคนอื่น จากสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดด้วยความตาย ไม่มีใครไม่ตายไม่มี ต่างคนต่างตายไปในที่สุด โง่สร้างทุกข์สร้างเวรสร้างกรรมมาทำร้ายใจตัวเองกัน เนี่ยเขาเรียกว่า คนบ้า คนขาดสติ คนไม่มีปัญญา ไม่เห็นจริง จริงตามคำสอนของพระองค์ท่านจริง

จริงไหม ลองมองดูเล่น ๆ กัน  คนมีจิตปกติเขาจะไม่ยึดในสิ่งที่มันไม่ใช่เรา มันไม่ใช่ของ ๆ เราจริง ไม่ทุกข์ใจจริง จริงกับสิ่งที่ต้องไปจากมัน จากร่างกายนี้ จากร่างกายคนอื่น จากวัตถุธาตุต่าง ๆ นี้จริง ใจคนปกติจริง ใจเขาไม่ทุกข์ ไม่ทุกข์ไปกับสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเขาจริง ไม่เศร้าหมองไปกับสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเขาจริง

นี่คือใจ..ใจปกติของใจจริง ที่อยู่อย่างใจ ใจสงบเย็นว่าง อิสระ เบิกบาน ในความรู้สึกว่าง ๆ ของตัวใจตนจริง ใจในความจริง..จริง ไม่ยึดเกาะกายจริง ไม่ยึดเกาะกายนี้จริง ไม่ยึดเกาะกายคนอื่นจริง ไม่ยึดเกาะสิ่งของวัตถุธาตุต่าง ๆ จริง เห็นจริงว่ามันไม่มีอะไรเป็นเรา เป็นของ ๆ เราจริง เราไม่มีในมันจริง มันไม่มีในเราจริง จริงตามความจริง..จริง จริงตามคำสอนของพระองค์ท่านจริง

มีแต่คนบ้าขาดสติที่ไม่มองจริง จริงในความจริง..จริง บ้าเกาะกาย เกาะสิ่งต่าง ๆ บ้าอยากในสิ่งนั้นในสิ่งนี้ ทั้ง ๆ ที่สุดท้ายต้องไปจากมัน เนี่ยคนบ้าจริงไหม ขาดสติ ที่โลกมันวุ่นวาย รบราฆ่าฟันกัน ที่ประเทศวุ่นวายทะเลาะกัน ที่บ้านวุ่นวายยื้อแย่งทะเลาะมีความคิดเห็นต่างกัน มีความชอบความไม่ชอบ มาทะเลาะกัน เอาอะไรกันมากมาย ดูดี ๆ มันบ้า มันขาดสติ มันขาดปัญญา บ้ากับสิ่งที่ต้องไปจากมันด้วยความตาย

มองแค่ตายก็เห็นชัด จริงไหม นี่บ้าเอาอะไรกัน

ตายมาเท่าไหร่ สมัยไหน ๆ ที่เคยมีก็เป็นอดีต เป็นความว่างเปล่าไปหมดแล้ว สมัยอยุธยา พม่าตีไทย รบราฆ่าฟันกัน เผาบ้านเผาเมืองคล้ายสมัยนี้ไหมที่ผ่านมา แม่งปลุกระดมเผาบ้านเผาเมือง คนดี ๆ ที่ไหนเขาทำยั่งงี้ มีแต่คนจังไรคิดชั่วแม่งเผาบ้านเผาเมืองทำลายประเทศ ทำลายความดีของในหลวง ที่ท่านมีแต่ทำเพื่อคนไทยทั้งชาติ คนพวกนี้มันเมาความโลภ มันอยากใหญ่ อยากมีอำนาจ อยากร่ำรวย เนี่ยความโลภของคน มันทำลายทุกอย่างได้ ทำลายความดีของใจตัวเอง ทำลายความสงบสุขใจของใจตัวเอง จิตตัวเองมีแต่ความเร่าร้อนเศร้าหมอง ด้วยความอยากในจิตของตน แม่งไม่กลับมาดู ไม่มาดูในสิ่งนี่ของจิตตน แม่งจะบ้าไปถึงไหน สร้างเวรสร้างกรรมมาทำร้ายตัวเองกัน มันจะร่ำรวยมากแค่ไหนมันก็ตาย ตายหมดทุกคน สุดท้ายก็ต้องเป็นอดีต เป็นความว่างเปล่า เหมือนทุกสมัย ๆ ที่ผ่านมา สมัยสุโขทัย สมัยอยุธยา สมัยรัตนโกสินทร์ สมัยสงครามโลกครั้งที่ ๑ สมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ จะสมัยไหน ๆ ก็ตาม เรื่องราวต่าง ๆ มันก็จบไปแล้ว เป็นอดีตไปหมดแล้ว เป็นความว่างเปล่าไปหมดแล้ว คนสมัยนั้นตายหมดแล้ว ไปรับในผลของกรรมของแต่ละคนที่ทำกันมาไปหมดแล้ว ลงอบายภูมิก็มี ไปสวรรค์ก็มี เนี่ย..สมัยนี้ก็เหมือนกัน สุดท้ายคนที่เกิดมาในสมัยนี้ก็ต้องตายหมดเหมือนกัน สุดท้ายก็กลายเป็นอดีตเหมือนกัน เป็นความว่างเปล่าไปในที่สุด และต่างคนต่างตาย ตายแล้วต่างคนต่างไป ไปตามกรรมของแต่ละคน

เธอทุกคนลองกลับมาดูในสิ่งนี้กัน เธอรู้สึกไหม? คนดี ๆ มีสติดี มีปัญญาจริง เขาไม่บ้า ไม่บ้าไปกับสิ่งต่าง ๆ ที่มันไม่ใช่เรา มันไม่ใช่ของ ๆ เราจริง ไม่บ้าไปกับสิ่งที่ต้องจากมันไป

คนมีสติดี มองเห็นจริงในสิ่งต่าง ๆ นี้ เขาไม่บ้า ไม่ยึด ไม่อยากในสิ่งที่ต้องจากมันไป จริงไหม ลองนิ่ง ๆ อย่างคนมีสติ มีปัญญามองแค่ความตายนี้ดู

เราทะเลาะก็ทะเลาะกับคนที่ต้องตาย คนที่ต้องตายกับต้องตายทะเลาะกัน ทะเลาะกับสิ่งที่ต้องไปจากมัน จากร่างกายนี้ จากสถานที่ต่าง ๆ จากประเทศนี้ จากโลกนี้ด้วยกัน

มันบ้าไหม ลองคิดดู มันเอาอะไรกัน..แม่งบ้า

คนสติดีมีปัญญา เขาไม่บ้า มีร่างกายก็ทุกข์มากพออยู่แล้ว มันมีเวทนา มันมีสิ่งต่าง ๆ บีบคั้นใจเราเองมากพออยู่แล้ว ยังหาเรื่องทุกข์ใจ เร่าร้อน เศร้าหมองมาทำร้ายใจตัวเองอีก แม่งบ้าขาดสติ แค่นี้ไม่เห็น ต่างคนต่างสร้างกรรมทำร้ายซึ่งกันและกันอีก สร้างทางลงนรก ทำร้ายใจตัวเองกัน

เนี่ยสภาพของโลก ของประเทศ ของคนที่เห็นอยู่ มีแต่คนบ้า ขาดสติ ขาดปัญญา ทำร้ายใจของใจตัวเองกันให้เร่าร้อน เศร้าหมอง เป็นทุกข์ สร้างกรรมพาลงอบายภูมิกัน มองดูดี ๆ จริงไหม คนดี ๆ คนปกติ คนมีสติ คนมีปัญญา เขาไม่ทำอย่างนี้กัน

เขารักษาใจเขาเองจริง เขารักใจตัวเองจริง เขามองความจริง..จริง มองดูใจตัวเองจริง มองจริงในสิ่งที่เป็นตัวใจเราจริง มองจริงในขันธ์๕ ร่างกายจริง จริงในความจริงในของ ๆ มันจริง มองสิ่งดี ๆ ที่มีจริง จริงกับใจของใจตัวเองจริง ในความสุขใจจริง จริงของใจ ในความรู้สึกของใจจริง ใจในความจริง..จริง

นี่คือใจ..ใจคนปกติจริง ที่มองจริง จริงในความจริง..จริง ไม่ทำร้ายใจของใจตนจริง ให้เร่าร้อน เศร้าหมองเป็นทุกข์ ไปกับสิ่งที่มันไม่ใช่ตัวเราจริง

คนมีใจปกติจริง ใจเขาไม่ทุกข์ ชัดน่ะ มีแต่คนบ้าขาดสติ ขาดปัญญาจึงมีใจเป็นทุกข์ เร่าร้อน เศร้าหมอง สร้างเวรสร้างกรรมมาทำร้ายใจของใจตัวเอง เนี่ยคนบ้า ไม่รักใจตัวเอง ขาดสติ จิตเกาะยึดในสิ่งที่มันไม่ใช่ตัวเราจริง

พอเห็นชัดไหม ใจคนปกติจริง เป็นยังไงของใจเขาจริง ใจปกติจริงไม่ทุกข์ ที่ใจเป็นทุกข์ เพราะบ้า..ขาดสติ..ขาดปัญญา ไม่เห็นจริงในความจริง..จริง ไม่เชื่อจริงในคำสอนของพระองค์ท่านจริง

คนบ้า ขาดสติ ขาดปัญญา ต่อให้ร่ำรวยมากแค่ไหน อวดตัวว่าเก่งแค่ไหน เรียนสูงมาแค่ไหน ก็บ้า..บ้าทำร้ายใจตัวเองให้เร่าร้อน เศร้าหมอง เป็นทุกข์ คนดี ๆ คนปกติ คนมีสติ มีปัญญาจริง เขาไม่ทำร้ายใจของใจเขานี้จริง

ลองกลับมาดู จริงไหมที่คุย

วันนี้ตื่นมา ท่านให้หัวข้อมาอย่างนี้ก็คุยตามท่านน่ะ ว่าไป ท่านให้มาว่า
"ใจธรรมดาจริงคือใจ ใจไม่ทุกข์
ใจในความจริง..จริง คือใจ..ใจสุขใจจริง"

นี่คือความจริงของใจ ใจในความจริง..จริง
ใจคนปกติรักสุขเกลียดทุกข์จริง
ใจคนปกติจริง รักใจตัวเองยิ่ง รักษาใจตนจริง ไม่ให้เป็นทุกข์ เร่าร้อน เศร้าหมองจริง มีสติจริง จริงในสิ่งนี้ของใจตนจริง ไม่คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่ว สร้างเวรสร้างกรรมมาทำร้ายใจตัวเองจริง ไม่พาใจตนจริง ลงอบายภูมิมีนรกเป็นต้นนี้จริง

มีแต่ทำเพื่อใจตัวเองจริง เดินใจตนจริง สู่จริงในความสุขจริง จริงของใจตนจริงอย่างเดียวจริง จริงตามพระท่านจริง ด้วยใจมีสติรู้ รู้จริงในสิ่งนี้ของใจตนจริง

รู้ตัวเองดีว่ารักสุขเกลียดทุกข์จริง
ทุกข์ของใจแม้สักนิดหนึ่งก็ไม่ต้องการจริง
จึงไม่ยึดเกาะจริงในสิ่งที่ทำให้ใจของตนเป็นทุกข์
ใจเดินเข้าหาจริง จริงในความสงบสุขใจของใจตนจริง เย็น ๆ ใจจริง อิสระใจจริง ใจสบายใจของใจตนจริง จริงตามพระท่านจริง

นี่คือใจของคนมีสติจริง ด้วยรู้ตัวเองจริงว่าทุกข์ไม่เอา เอาสุขใจจริง

มีสตินี้จริงไหม ไม่บ้า ไม่ขาดสติทำร้ายใจของตนให้เร่าร้อน เป็นทุกข์ ไปเกาะยึดในสิ่งที่ต้องไปจากมันด้วยความตาย

มองแค่นี้ก็พอชัดใจนะ เอาแค่ตายก็เห็นชัด

คนเราจะบ้าไปถึงไหน มันไม่ตายหรือ ทะเลาะกันอยู่ได้ สร้างเวรสร้างกรรมกันอยู่ได้ สร้างไฟเผาใจตัวเองกัน สร้างนรกไว้รอรับตัวเองยามตายจากร่างกายนี้ แม่งบ้าขาดสติ เรียนก็สูง รวยก็รวย แม่งบ้า เอาอะไรกัน

โลกไม่วุ่นวาย ชาติไม่วุ่นวาย วัดไม่ได้วุ่นวาย บ้านเรือนไม่ได้วุ่นวาย ที่วุ่นวายมาจากจิตคนบ้า ขาดสติ ขาดปัญญา เลยมีสภาพอย่างทุกวันนี้กัน
ลืมความตายกัน ประมาทในชีวิตกัน
ประมาทในการทำความดีกัน
ประมาทรักษาใจของตนกันให้ผ่องใสอยู่เสมอ ๆ เพื่อความอยู่เป็นสุขของจิตตัวเองกัน
ประมาทในชีวิตหลังความตายกัน หลงลืมกันในสิ่งนี้กันว่า ตายแล้วจะไปไหน ถ้าจิตเศร้าหมองก็ลงอบายภูมิ มีนรกเป็นต้น

เนี่ยไม่เชื่อจริงในคำสอนของพระพุทธเจ้าท่านจริง จึงไม่สนใจจริง ที่จะรักษาใจของใจตนจริง ให้ผ่องใสอยู่เสมอ ๆ จริง คนขาดสติไม่มองในสิ่งนี้ของใจตนจริง ๆ กัน ต่างคนต่างทำร้ายใจของตนกัน ประมาทไม่รักษาใจของใจตนจริง ๆกัน

ใจปกติคือใจไม่ทุกข์ ใจที่เอาจริงในใจสุขใจจริง คือใจคนมีปัญญาจริง รักใจตัวเองจริง ไม่ประมาทรักษาใจของตนกันให้ผ่องใสอยู่เสมอ ๆ เพื่อความอยู่เป็นสุขของจิตตัวเองกัน

ใจจับจริง จริงในสิ่งที่เป็นสุขใจของใจจริง จริงในสิ่งที่ดีที่สุดจริง จริงของใจตนจริง จริงตามพระองค์ท่านจริง จริงด้วยใจ ใจรักใจตัวเองจริง รักสุขใจจริง เกลียดทุกข์ของใจจริง

คุณเป็นคนมีใจปกติไหม ปกติต้องเป็นคนมีใจไม่ทุกข์ ด้วยใจไม่ต้องการทุกข์ของใจจริง นี่คือใจของปกติจริง

ความจริงไม่มีใจใครที่ต้องการทุกข์ ต้องการลงนรก แต่ก็มีแต่เดินเข้าหาในสิ่งกัน หาทุกข์ใส่ตัวกัน..แปลกดี

พี่ก็โง่ ก็บ้ามาก่อน จึงถอยหลังดูในความผิดพลาดในสิ่งนี้ของจิตตนจริง ทุกข์มานับชาติไม่ถ้วน ทั้ง ๆ ที่ไม่ต้องการทุกข์ ต้องการสุข แต่กลับเดินเข้าหาทุกข์ สร้างทุกข์ สร้างภพสร้างชาติ สร้างเวรสร้างกรรมมามากมาย มาทำร้ายใจของใจตน

วันนั้นพี่กลับมาดูในสิ่งนี้ของใจพี่เอง

เราเคยปรารถนาพุทธภูมิ เราทำให้คนอื่นมานับชาติไม่ถ้วน โดนเขาด่าเขาว่า เขาเข้าใจเราผิด เราก็ยังทำให้เขา ให้คนทั้งหลายหวังให้เขาเป็นสุข แต่ที่ผ่านมานับชาติไม่ถ้วน ทำให้แทบเป็นแทบตาย กลับหามีใจของใครสักคนที่มีใจของใจเขาจริง มีใจรักใจจริง มีใจจริงใจจริง มีใจเข้าใจในใจจริงไม่มี กลับหาใจของใครที่เราไปยุ่งไปช่วยแล้วใจของเขาจริง มีใจสุขใจจริง จริงของใจเขาจริงไม่มี

ที่ผ่านมานับชาติไม่ถ้วน เราไปทุกข์ทรมานกายทรมานใจในการเกิดมามากมาย เป็นสัตว์นรก ลงนรกเกือบทุกขุม เป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉานมามากมายนับชาติไม่ถ้วน เกิดเป็นคน เอากระดูกมากองรวมกันก็เป็นภูเขาสูงหลายลูก เกิดเป็นเทวดา นางฟ้า พรหมก็นับชาติไม่ถ้วน สุดท้ายก็ยังไม่พ้นทุกข์

ทุกอย่างที่เคยผ่านมาทั้งหมด หาอะไรเป็นสาระไม่มี ทุกข์บนความว่างเปล่าอย่างเดียวโดยแท้

แม้แต่ชาตินี้ก็ตาม สุดท้ายไม่ได้อะไรในมันเลย ทำแทบตาย เหนื่อยแทบตาย สุดท้ายก็ต้องตายไปจากมัน มันมีแต่ความทุกข์กาย มีภาระ มีเวทนา มีอาการทางกายมันบีบคั้นใจของเราอยู่ตลอดเวลาในของ ๆ มัน

มองไม่เห็นอะไรคือสุข สุขของการเกิด สุขของการมีร่างกาย สุขที่ไปยุ่งวุ่นวายในอะไร ๆ ทั้งหมดไม่มี ไม่ได้อะไรจากการเวียนว่ายตายเกิดมายาวนานแสนนาน มีแต่ความทรมานใจทรมานกายอย่างเดียวนี้จริง ไม่สามารถทำให้ใจของใครสักคน มีใจสุขใจจริงของใจเขาจริง ไม่มีใจใครจริง ที่จะมีใจจริง รักใจเราจริง ในจิตของคนที่มีอุปาทานจิต มีตัณหา มีความอยาก มีทิฐิมานะมั่นในความคิดเห็น เอาความชอบ เอาความไม่ชอบของตนเป็นใหญ่ เราไม่เห็นสิ่งนี้ในจิตคนทั้งหลายนี้จริง จริงในความรักจริงของใจจริง จริงในความจริงใจจริงของใจจริง จริงในใจให้ใจกันจริง ในสงบสุขเย็น ๆ ใจ ใจของใจกันจริงไม่มี มีแต่ทำร้ายใจกัน ต่อให้ทำดีแทบตาย พอไม่ถูกใจเขาก็ทำร้ายเรา

พี่เห็นสิ่งนี้ของการเกิดของพี่ มันเหนื่อยจริงในสิ่งนี้ที่ผ่านมาทั้งหมดนี้จริง นี่เราไปบ้าอะไรของ ๆ เรามา นี่เราขาดสติไม่รักใจตัวเองจริง ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ ใจของใจเราจริง ต้องการจริง จริงในความสบายใจจริง อิสระใจจริง ใจสุขจริงของใจจริง และไม่ต้องการมีทุกข์ แต่เรากลับไปสร้างทุกข์มาทำร้ายตัวของตัวเราเอง

เราเห็นของ ๆ เราอย่างนี้ในความรู้สึกของใจเราเองจริง จึงกลับมารักใจตัวเองจริง จึงกลับมาหาจริง จริงในความจริง..จริง จริงตามพระท่านจริง จึงกลับมาจริงยอมจริง จริงในความดีของใจพระองค์ท่านจริง มามองจริงที่ใจ ใจในภายในของใจพระองค์จริง เราเห็นสิ่งหนึ่งของใจพระองค์ ใจท่านทรงรักใจเราจริง ใจท่านทรงจริงใจจริง จริงกับใจของใจเราจริง ทรงไม่เคยทอดทิ้งใจเราเลย ทรงให้ใจเราจริง จริงด้วยใจรักจริงของใจพระองค์ท่านจริง

เราเห็นสิ่งนี้ในใจของใจพระองค์ท่านจริง จึงกลับมาจริง นับแต่นี้ไปใจของเราจะไม่ไปยุ่ง ไปวุ่นวาย ไปให้ใจกับใครอีกต่อไปจริง เราให้ใจของเราจริง จริงกับใจที่รักใจเราจริง เราให้ใจเราจริง จริงกับใจพระองค์ท่านจริงหมดใจเราจริง ด้วยใจเราเห็นค่าจริง ใจพระองค์ท่านมีค่าที่สุด ดีที่สุด ทรงรักใจเราจริง ใจเราอยู่จริง จริงกับใจพระองค์จริง ใจเราสงบสุขใจยิ่ง จริงในความดีของใจพระองค์ท่านจริง เราได้กลับมาเห็นความจริง จิตเคลื่อนออกจากกาย พบจริงในความจริงของตัวใจเราจริง จริงด้วยความดีของใจพระองค์ท่านจริง

ตัวเราจริง ๆ ไม่มี ไม่มีอะไรทั้งสิ้นจริง จริงในความจริงของตัวเราเองจริง ว่างไม่มีขอบเขตจริง มีแต่ความรู้สึกจริงในสิ่งนี้ของตัวใจเราเองจริง รู้สึกสงบเย็นใจเองจริง อิสระใจเองจริง สบายใจที่สุดจริง จริงในสิ่งนี้ของตัวใจเราจริง มองเห็นจริงว่า เรากับขันธ์ ๕ ร่างกายเป็นคนละส่วนจริง จริงตามความจริง จริงตามคำสอนของพระองค์ท่านจริง จึงมั่นใจจริง จริงในสิ่งนี้จริง จริงในความจริงของใจ ใจในความจริง จริงในความดีของใจพระองค์จริง จริงในความรัก ในความจริงใจ ในใจสงบสุขเย็นใจ อบอุ่นนิ่มนวลใจของใจพระองค์ท่านจริง จึงเห็นจริง จริงในสิ่งนี้ของใจตนจริงว่า
ใจธรรมดาจริงคือใจ..ใจไม่ทุกข์
ใจในความจริง..จริง คือใจ..ใจสุขใจจริง
นี่คือความจริงของใจ..ใจในความจริง..จริง

วันนี้เราจึงมีใจสุขใจของใจเราจริง ด้วยใจรักจริง รู้คุณจริง จริงในความดีของใจพระองค์ท่านจริง ใจไม่ทุกข์ด้วยใจมั่นใจความจริง..จริง ตัวเราจริง ๆ คือใจ ตัวเราจริง ๆ มีจริงแค่ความรู้สึก ว่าง ๆ สงบอิสระเบิกบาน สิ่งนี้คือจริง จริงในตัวใจของตัวเราเองจริง
เราจึงไม่ทุกข์ด้วยสิ่งนี้ของตัวใจเราเองจริง
เราจึงอยู่จริงด้วยใจ ใจสุขใจของใจเราจริง จริงในความรักจริง จริงในความจริงใจจริง จริงในความดีของใจพระองค์จริง จริงกับดวงใจพระทุกดวงใจในนิพพานจริง ด้วยใจมั่นใจจริง ดวงใจพระดีที่สุดจริง จริงของใจเราเองจริง

ใจสุขใจจริงคือจริง จริงในความจริง..จริง จริงในใจพระทุกดวงใจจริง จริงในนิพพานจริงของใจ ใจในความจริง..จริง เราจึงเอาจริง จริงของใจเราจริง จริงในสิ่งนี้จริง จริงอย่างเดียวจริง จริงในความรู้สึกจริงของใจตนจริง ใจ..ใจสุขใจจริง จริงในความดีของใจพระท่านจริง ใจสงบสุขใจนี้ดีที่สุดจริง จริงของใจตัวเราเองจริง ใจสุขใจจริงคือจริง จริงในความจริง..จริง

เราจับความจริง จับจริงในใจพระท่านจริง จึงสุขใจจริง จริงในสิ่งนี้ของใจตนจริง

เราไม่เกิดแล้วด้วยความดีของใจพระองค์ท่านจริง สมเด็จพ่อองค์ปฐม พ่อของใจเราจริง เราไม่บ้า เราไม่ขาดสติ เราไม่ทำร้ายใจเราเองจริง

พอเข้าใจนะ ลองกลับมาดูในสิ่งนี้ของใจตนจริง ๆ กัน

ใจปกติจริง ไม่ทุกข์
ใจในความจริง รู้จริง ใจสุขสงบจริง จริงในความดีของใจพระท่านจริง
กลับมามองในสิ่งนี้จริง ๆ กัน ใจอยู่จริงในสิ่งนี้จริง ๆ กัน
ครับ แล้วดีเอง

หนีทุกข์ สุขจุดเดียวจริงคือนิพพาน
นิพพานจริงคือความจริงของใจจริง จริงในความเป็นปกติจริงของใจ
ใจสงบเย็นว่างอิสระเบิกบานในตัวใจของตัวเราเองจริง
ใจสงบสุขใจจริงในความรักของใจพระท่านจริง
ใจสงบสุขใจจริงในความดีของใจพระท่านจริง
ใจปกติจริง จริงที่ใจในความรู้สึกจริงของตัวใจเราเองจริง
ใจสุขใจจริง จริงที่ใจ ใจสุขใจในความดีของใจพระองค์จริง
เราอยู่จริงของใจเราจริงในสิ่งนี้จริง จริงในภายในจริง จริงในความรู้สึกจริงของใจตัวเองจริง
มีแค่นี้เอง

ส่วนใครจะยังไง เอายังไงกัน ก็ตามสบายน้อ
พี่แค่คุยความจริง จริงในใจสุขใจของใจจริง
ก็มีแค่นี้ เราเหนื่อยมามากพอแล้ว เราไม่เอาแล้วในทุกข์ทั้งปวงจริง
เนี่ย..คุยจากใจจริง

#เราทำให้ก็จริง #ให้ด้วยใจรักใจทุกดวงใจจริง #แต่เราพอแล้ว #เราอยู่ในใจสุขใจของใจพ่อเราจริง..#พอ
#ดวงใจพ่อ #ดวงใจพระองค์ท่านดีที่สุดของใจเราจริง

คนในโลกนี้ เขาจะบ้าอะไรกัน ก็เรื่องของเขา จะทะเลาะ ตีกัน ฆ่ากัน มันก็กรรมของเขา เขาทำกันมา เราไม่ยุ่งกับกรรมของใคร

เราพอแล้วจริง ไม่เกิดดีที่สุดจริง จริงของใจเราจริง เรารักใจเราจริง เรารักใจพระจริง เราเอาของเราแค่นี้ ใจสงบสุขใจเราดี

เขาบ้าก็เรื่องของเขา นรกไม่ได้มีไว้ให้คนดีอยู่ ช่างเขาตามสบาย

นิพพานเป็นที่อยู่จริงของใจ ใจปกติจริงของใจจริง ใจไม่มีทุกข์จริง ใจสงบสุขใจจริง จริงในความดีของใจพระท่านจริง

ใครอยากไปพระนิพพานจริง จงกลับมา มาอยู่จริง จริงในสิ่งนี้ของใจจริง...จริง ๆ กัน

ใจ..ใจสุขใจจริง จริงในความดีของใจพระองค์ท่านจริง อยู่จริงในสิ่งนี้อย่างเดียวจริง จริงของใจตนจริง..จริง ๆ พอ..แล้วดีเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น