"เธอจงอย่าสนใจในรูป"
พระองค์ตรัสเพียงเท่านี้ ท่านพาหิยะ ท่านบรรลุพระอรหันต์พร้อมปฏิสัมภิทาญาณ
ชื่อท่าน พี่อาจจำผิดนะ ตื่นมาตีสี่ มีคำนี้ขึ้นมา
ก็ถือว่าเราคุยกันตามปกติของเราทุกวัน อ่านสนุกๆๆกันน้อ
'เธอจงอย่าสนใจในรูป'
ใช่..แค่นี้เอง
จบตรงนี้ จบตรงใจ ใจสุขใจในความรู้สึกจริงของใจ..ในภายในของใจจริง..
แค่นี้..จริง
แต่ทำไมเราฟัง เราอ่าน เราปฏิบัติกันมามากมายยังไม่มีผลของใจจริงๆ
ก็ถามใจตัวเองดูว่า เราเห็นสิ่งนี้ตามท่านจริงหรือไม่
ว่า 'มันไม่มีอะไรเป็นเรา..เป็นของๆเรา..เราไม่มีในมัน..มันไม่มีในเรา'
'เธอจงอย่าสนใจในรูป'
พระองค์สอนแค่นี้ ท่านพาหิยะบรรลุพระอรหันต์
ท่านไม่สนใจภายนอกจริง จิตท่านเลยสงบสุขใจในภายในของใจท่านเอง
ตรงไปตรงมาจริง ในสิ่งนี้ของใจท่านจริง
แต่ของพวกเรา
อ่านทุกวัน ฟังมามากมาย ทำกรรมฐานบางคนก็ทำมานานหลายปี แล้วผลเป็นยังไง...นั่นสิ
ที่พลาดไม่มีผล ก็พลาดตรงนี้ 'ยังสนใจในรูป'
รูปกายนี้ รูปกายคนอื่น รูปวัตถุสิ่งของต่างๆๆ
สนใจแต่สิ่งภายนอก ต่อให้ทำกรรมฐานมาแค่ไหน
อ่านธรรมะ รู้ข้อธรรมมากมายแค่ไหน ฟังคำสอนมามากมายแค่ไหนก็ตาม
ถ้าจิตยังสนใจในรูป ในสิ่งต่างๆที่มันไม่ใช่เราจริง...ก็แค่นั้น
ผลจริงของใจจริง ใจสงบสุขใจจริง..จริงตามพระท่านจริง ก็ไม่มีกับเรา
ผลจริงของใจ มาจากใจกลับมาอยู่จริงในความจริงของตัวใจเราเองจริง
มีแค่นี้..จริง
ตราบใดยังสนใจในรูป ก็นี่แหละ
หาคำว่า ใจ..ใจสงบสุขใจของใจจริง..จริงตามพระท่านจริง...ไม่มี
ไม่มีกับจิตที่ยังสนใจในรูป
สำคัญนะ...สิ่งนี้ตรงไปตรงมาจริง
ท่านที่มีใจสุขใจของใจท่านจริง ท่านสนใจแค่ใจ ใจตัวเดียวจริง ในภายในของใจท่านจริง..แค่นี้
จึงรู้สึกสงบเย็น..ว่าง..อิสระ..สบายใจ
ใจมีใจสุขใจอยู่กับใจพระท่านจริง..จริงในภายในของใจพระองค์ท่านจริง
จิตท่านไม่สนใจในรูปจริง
ด้วยใจเห็นจริง
'ตัวท่านจริงๆคือ.ใจ ใจในความจริง
มีจริงแค่ความรู้สึกว่างๆ..สงบเย็น..อิสระ..เบิกบาน..สิ่งนี้คือตัวท่านจริง'
ภายนอก เห็น..รู้..สัมผัส..ได้ยิน เป็นปกติของการมีร่างกาย การอาศัยในร่างกายนี้อยู่
แต่ท่านไม่สนใจ ใจท่านรู้อยู่กับความรู้สึกว่างๆ สงบในภายในของตัวใจท่านเองจริง
ทำเหมือนทุกคน ใช้ชีวิตตามปกติ
กิน..ถ่าย..ทำงาน..นอน ไม่ว่าอะไรก็ทำเต็มที่จริงเท่าที่ทำได้
แต่ทำอย่างใจ ใจสงบสุขใจในภายในของใจตัวเองจริง
ท่านเอาแค่ใจท่านจริง เอาสิ่งนี้ของใจจริงเป็นสำคัญจริงของตัวท่านเองจริง
จิตท่านไม่สนใจในรูป
ต่างกับคนบางคน อ่านก็เยอะ ฟังก็มาก รู้ธรรมะเยอะมาก
แต่ยังสนใจในรูป สนใจสิ่งภายนอก สนใจจริยาของผู้อื่น ยังติ..ยังว่า..ยังนินทา
ยังเอาสิ่งเอาสิ่งนี้เป็นความชอบ เป็นความไม่ชอบ เป็นความทุกข์ เป็นความสุขของจิตตน
นี่มาจากอะไร 'ยังสนใจในรูป'
แค่นี้เอง
แต่ท่านไม่สนใจในรูป
ผลของใจในใจ จึงมีผลต่างกัน
มาจากสิ่งนี้เท่านั้นเอง
ท่านสนใจในใจของใจท่านจริง อย่างเดียวจริง
ยึดใจเป็นใหญ่จริง
สงบ.สุขใจจริงในสิ่งนี้ของใจตัวเองจริง
ในความรู้สึกว่างๆๆของตัวใจตัวเองจริง ในความสงบสุขใจของใจพระท่านจริง
ใจท่านสุขใจจริงในสิ่งนี้ของใจท่านเอง..จริง..ในภายในของใจท่านจริง
เนี่ย..ต่างกันแค่นี้
คุณยังสนใจในรูป
ท่านไม่สนใจในรูป
มีชีวิตอยู่เหมือนกัน ในร่างกายนี้เหมือนกัน
มีสภาวะความเป็นไปทุกอย่างเหมือนกัน มีร่างกายบีบคั้นเหมือนกัน
มีภาระ มีการงานที่ต้องทำเหมือนกัน
มีเรื่องเข้ามากระทบ มีทุกอย่างของการเกิด ปกติของการมีร่างกายทุกอย่าง
แต่ใจของท่านกลับสงบ เย็นๆๆใจ..ว่าง..อิสระ..สบายใจ..ใจสุขใจของใจท่านจริง
ทำไม?
ก็มีแค่นี้ 'ท่านไม่สนใจในรูป' จริง..จริงตามพระท่านสอนนี้...จริง
แต่เธอล่ะ
ทำไมยังหาใจ..ใจสงบสุขใจเองจริง..จริงในความจริง..จริง...ไม่มี
มีแต่จิตวุ่นวาย ไม่สงบสบายใจจริง..เพราะเหตุใด?
ก็มาจากสิ่งนี้อย่างเดียวจริง 'เธอยังสนใจในรูป' ...ไม่เชื่อพระพุทธเจ้าท่านจริง
ท่านไม่สนใจในรูปจริง ใจเป็นใจจริง
ใจมายึดจริงในสิ่งที่เป็นจริงในความจริง..จริง
ในความรู้สึกจริงของใจ..จริง
ในความดีของใจพระท่าน..จริง
ในสิ่งที่เป็นสุขใจจริงของใจ..จริง
จิตท่านจึงถึง
ถึงคำว่า ใจ..ใจสุขใจในนิพพานจริงของใจท่าน..จริง..จริงในใจของใจพระองค์ท่าน....จริง
เราต่างกันแค่นี้
จำไว้นะครับ
คุณสนใจในรูป
เราไม่สนใจในรูป
เรายึดความจริง..จริง
ยึดใจเป็นใหญ่จริง
ยึดความดีของใจพระท่านจริง
เป็นใจ..ใจสุขใจจริงของใจตนจริง
มีแค่นี้เอง
ผลของใจ..จึงมีผลต่างกัน
ก็เป็นเรื่องธรรมดา...จริงไหม
จิตคุณสนใจในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวคุณจริง ของๆคุณจริง และเป็นสุขจริงของใจคุณจริง
คุณยังสนใจในรูป ในกายนี้ ในกายคนอื่น ในวัตถุธาตุทั้งหมด
ก็ต้องเป็นธรรมดา
จิตมีอุปาทาน ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งต่างๆ ว่ามันเป็นเรา..เป็นของๆเรา..เรามีในมัน..มันมีในเรา
ยึดรูปกาย ยึดเวทนาทางกาย ยึดความคิด ยึดความจำ ยึดอารมณ์ปรุงแต่ง ยึดอาการทางกาย ยึดสิ่งต่างๆของร่างกาย ยึดร่างกายคนอื่น ยึดสิ่งของวัตถุธาตุต่างๆ
จิตมีความชอบ มีความไม่ชอบ มีความปรารถนา มีความอยาก เอาสิ่งต่างๆมาเป็นสุขของจิตตน
แล้วไง ก็เร่าร้อนวุ่นวาย เป็นทุกข์เศร้าหมองด้วยอุปาทานจิต ด้วยตัณหาความอยาก ความผูกพัน ความยึดมั่นถือมั่น
นี่แหละ..ยังสนใจในรูป
จริงไหม
เราจึงต่างกันตรงนี้
พี่ไม่สนใจในรูป..จริง
เห็นความจริง..จริง
เราจริงๆ..มีจริงๆของเราจริงๆ..แค่.ใจ
ใจตัวเดียวจริง
ใจคือความรู้สึก
เราอยู่ของเราแค่นี้ในภายในของเราเอง...จริง
ด้วยใจมั่นใจจริงในสิ่งนี้ของตัวใจเรา...จริง
ด้วยใจมั่นใจจริง..ใจเชื่อจริงในสิ่งนี้ของใจตนจริง
ใจเชื่อใจพระพุทธเจ้าจริง
ใจเห็นความจริง..ใจสุขใจจริง..ใจในใจจริง..ใจในใจพระท่านจริง..คือความจริง..จริง
จึงยึดจริง..อยู่จริง..สุขใจจริง..ในสิ่งนี้ของใจ..อย่างเดียว..จริง
มีแค่นี้เอง
ลองวางใจนิ่งๆ แล้วกลับมาดูตัวเอง..จริงไหม ที่คุยมา
ที่จิตคุณวุ่นวาย เศร้าหมอง คุณยังสนใจในรูปอยู่ จริงไหม?
ลองนิ่งๆ ในความรู้สึกว่างๆ แล้วมองสิ่งนี้จริง ตรงไปตรงมาจริง
จริงไหม? จิตเป็นทุกข์ วุ่นวาย เศร้าหมองเพราะจิตคุณสนใจในรูป
มาจากสิ่งนี้ของจิตคุณเอง...จริง
เราสนใจในรูป...เรารู้สึกยังไงของใจเราจริง
เราไม่สนใจในรูป..เรารู้อยู่ว่างๆๆจริงของใจ..ใจในใจเราเองจริง...เรารู้สึกยังไงของใจเราจริง
เธอว่า จริงไหม..จริงตามพระองค์ท่านจริงไหม
ที่พระองค์ทรงสอนเราว่า
"เธอจงอย่าสนใจในรูป"
พระองค์ตรัสเพียงแค่นี้ ท่านพาหิยะ..บรรลุพระอรหันต์
ถ้าเราเห็นตามท่านนี้จริง เห็นบ่อยๆเพื่อความอยู่เป็นสุขของจิตตนจริง
เธอว่าดีไหม..ในสิ่งนี้ของใจเธอเอง...จริง
กลับมาดูในสิ่งนี้กัน..ดีไหม
'อย่าสนใจในรูป'
จงอยู่อย่างใจ ใจเป็นใจ..ใจสงบสุขใจในความดีของใจพระท่าน...จริงๆกัน
ดีไหม
จิตเศร้าหมองเป็นทุกข์จากการสนใจในรูป ยึดเกาะในมัน ยึดมั่นถือมั่นในมัน
..กับ..
จิตไม่สนใจในรูป ใจสงบสุขใจในความรู้สึกว่างๆ จริงของใจ ในภายในของตัวใจเราจริง
ใจสงบสุขใจจริงในใจพระท่านจริง
ใจสงบสุขใจในสงบนิพพานจริงของใจ ในความรู้สึกว่างๆของตัวใจเราเองจริง
เธอถ้ารักใจของใจเธอจริง เธอจะอยู่แบบไหนจริง จึงจะดีจริงกับใจของใจเธอเอง..จริง
สนใจในรูป...หรือ...ไม่สนใจในรูป
ก็กลับมาดูตรงๆจริง ในสิ่งนี้ของใจเธอเองจริง
'มรรคผลแค่กลับมา..ยึดใจเป็นใหญ่จริง' มีแค่นี้เอง..จริงๆ
ตัดขันธ์ ๕ ตัวเดียวจริง ไม่สนใจในรูปจริง
จิตว่างจากการเกาะกายจริง
สงบสุขใจจริงในธรรมว่างๆ ในความรู้สึกว่างๆในภายในลึกๆของใจต้วเองจริง
ใจสงบสุขใจจริงในภายในของใจพระท่านจริง
ใจสงบสุขเย็นๆใจในสงบนิพพานของใจตัวเองจริง
ใจสุขใจจริงมีค่ายิ่ง
ดวงใจพระท่านจริงดีที่สุดจริง จริงของใจเราจริง
ชีวิตมันแค่ตาย ทุกอย่างจบตรงตายจริง
แต่ถ้ายังสนใจในรูปอยู่ ยึดมั่นถือมั่นในมันอยู่ ก็เวียนว่ายตายเกิดต่อไป
ถ้าไม่ต้องการเกิดจริง มีสิ่งนี้สิ่งเดียวจริง.. 'จงอย่าสนใจในรูป'
"เธอจงอย่าสนใจในรูป"
พระองค์ตรัสเพียงเท่านี้ ท่านพาหิยะ ท่านบรรลุพระอรหันต์พร้อมปฏิสัมภิทาญาณ
เธอจงอย่าสนใจในรูป
ใช่..แค่นี้เอง..
จบตรงนี้ จบตรงใจ ใจสุขใจในความรู้สึกจริงของใจ ในภายในของใจจริง
แค่นี้..จริง
จริงๆมีแค่นี้จริงๆ...ไม่จำเป็นต้องไปทำอะไรในอะไรๆมากมาย
จิตเธอไม่สนใจในสิ่งนี้จริง..ถึงเอง 'นิพพาน'
ด้วยใจ..ใจสงบสุขใจจริงในความดีของใจพระท่าน..จริง
เราคุยกันมามากแล้ว..วันนี้คุยตรงๆ
แค่ไม่สนใจในรูป จิตว่างจากการเกาะกายจริง
ใจสุขใจจริงในความดีของใจพระองค์จริง ใจเธอสุขใจในใจของใจเธอจริง
ครับ..ถึงเอง..
นิพพาน
ลองวางใจเล่นๆๆนี้..ตามดู
วันนี้ท่านให้หัวข้อมาแค่นี้ ... 'จงอย่าสนใจในรูป'
ก็พอเข้าใจนะครับที่คุย
ลองกลับมาดูจริงในสิ่งนี้ของใจตัวเอง..จริงๆดู
ดีก็...เอา
ตัวเราไม่มี..ว่างไม่มีขอบเขตจริง
เราคือเรา...เราคิอใจ...เราคือความรู้สึก
ใจสุขใจในใจพระท่านจริง สิ่งนีดีที่สุดจริง..จริงของใจเราเอง...จริง
พระองค์ตรัสเพียงเท่านี้ ท่านพาหิยะ ท่านบรรลุพระอรหันต์พร้อมปฏิสัมภิทาญาณ
"เธอจงอย่าสนใจในรูป"
'เธอจงอย่าสนใจในรูป'
ใช่..แค่นี้เอง..
จบตรงนี้..จบตรงใจ ใจสุขใจในความรู้สึกจริงของใจ ในภายในของใจจริง
ใจจบตรงใจที่ใจ ใจสุขใจในสิ่งนี้ของตัวใจเราเองจริง จริงในความดีของใจพระองค์ท่าน..จริง
มีแค่นี้เอง..จริงๆๆ
จาก เฟสกลุ่มมงคลธรรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น