คนในโลกนี้มีแต่จิตที่ยึดว่า..มี
แต่ใจของท่านที่เห็นความจริง ใจสงบสุขใจจริงในใจพระท่านจริง ท่านเห็นว่า ไม่มี ไม่มีในสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมด ในความรู้สึกของใจท่านจริงมีจริงแค่ใจ ใจว่าง ๆ จริงของตัวใจท่านจริง ในความว่างของใจ มีดวงใจพระท่านสงบสุขเย็นใจ อบอุ่นนิ่มนวลใจในภายในของใจท่านจริง มีแค่นี้จริง จริงที่ใจท่านจริง ผลของใจจึงต่างกัน
จิตท่านหยุดเกิดจริง สงบจริงในนิพพานเองจริง แต่จิตคนทั้งหลายที่ยึดว่ามี พาหลงเกิดต่อไป ท่องเที่ยวไปในวัฏฏะสงสาร ด้วยอุปาทานของจิตติดยึดว่ามี มีดีมีชี่ว มีถูกมีผิด มีสุขมีทุกข์ จิตหลงยึดว่ามี อุปาทานขันธ์เกาะติดยึดในร่างกาย ยึดสิ่งต่าง ๆ ว่ามี ว่าเป็นเรา เป็นของ ๆ เรา เรามีในมันมันมีในเรา นี่คือจิตคนทั้งหลายที่ยึดว่ามี ต่างพาเกิดต่อไป
อุปาทานจิตเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดจริง
ผลของใจในใจ จึงต่างกับจิตของท่านที่สงบแล้วเองจริง จริงในความจริง..จริง จริงในความดีของใจพระท่านจริง จริงในสงบนิพพานจริง จริงของใจท่านจริง ในใจท่านไม่มี ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของ ๆ เราจริง เห็นความจริง..ไม่มี ใจว่างสงบอิสระสบายใจด้วยตัวใจของใจท่านเองจริง ใจท่านสุขใจในความดีของใจพระท่านจริง จิตมั่นความจริง จึงหยุดนิ่งสิ้นภพชาตืการเกิดเอง ผลเลยมีต่างกันกับจิตที่ยังยึดว่ามี
ท่านให้คุยเรื่อง "จิตคนทั้งหลายยังยึดว่ามี มีดีมีชั่ว มีถูกมีผิด มีสุขมีทุกข์ เลยหลงเกิดต่อไป"
ความจริงเราเป็นผู้ไม่มีอะไรมาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่เริ่มต้นจริง ๆ ของความเป็นจิตจริง
ลองมองตามเล่น ๆ ตามพี่คุยน้อ เอาเพลิน ๆ ใจกัน
ประมาณปี 37 คืนหนึ่งกลางดึกพระท่านมาสอนว่า
"เริ่มต้นของจิต..ไม่มี สิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าคือความว่างเปล่า สุขทั้งหมดมีอยู่ที่ใจของตนเพียงอย่างเดียว"
แล้วท่านบอกว่า...นี่คืออารมณ์พระอรหันต์...
"สุขทั้งหมดมีอยู่ที่ใจของตนเพียงอย่างเดียว" ..จบตรงนี้
ท่านมาบอกแค่นี้แล้วท่านก็หายไป
กว่าจะพอเข้าใจและพอเห็นชัด พอหมดสงสัยก็ปี 58 จริงของท่านจริง ๆ
ความจริง...ไม่มี ตัวเราจริง ๆ ว่างไม่มีขอบเขต เป็นธรรมชาติว่างมหาศาลจักรวาลเดิม ไม่มีรูป ว่างไม่มีขอบเขต สงบเย็น อิสระ เบิกบาน ในความรู้สึกว่าง ๆ ในสิ่งนี้ของเราเองจริง
จิตเป็นอณูธาตุเล็ก ๆ ในจักรวาลมารวมตัวกัน เริ่มต้นของจิตจริง ๆ ไม่มี ไม่มีมาในสิ่งนี้มาก่อนจริง ขันธ์ ๕ มาจากอุปาทานของจิตสร้างสิ่งนี้ขึ้นมา มาจากธาตุทั้ง ๔ ดินน้ำลมไฟมาประชุมกัน มีรูปกาย มีเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ สิ่งนี้ของร่างกายจริง ๆ มันไม่ใช่เรามันไม่ใช่ของ ๆ เรา เราไม่มีในมันมันไม่มีในเรา นี่คือความจริง..จริง
มันเกิดขึ้น มันตั้งอยู่ แล้วมันก็ดับไป แตกสลาย เน่าเหม็น กลายเป็นความว่างเปล่าไปในที่สุด ทุกอย่างของร่างกาย ร่างกายนี้ ร่างกายคนอื่น วัตถุธาตุสิ่งของต่าง ๆ ทั้งหมด ทุกอย่างในโลกนี้ทั้งหมด ล้วนมีสภาพอย่างนี้เหมือนกันหมด เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไปในที่สุด มันคือความว่างเปล่าในของ ๆ มันเองจริง
ตัวเราจริง ๆ คือใจ เป็นธรรมชาติว่างมหาศาล มีจริงแค่ความรู้สึกว่าง ๆ สงบ เย็น อิสระ เบิกบาน ตัวเราจริง ๆ คือผู้รู้ รู้ในความเป็นกลาง ว่าง สงบ อิสระ เบิกบานของตัวใจเราเองจริง
เราเป็นผู้ไม่มีอะไร สงบสุขใจด้วยตัวใจเราเองจริง เรามีเรา เรามีของ ๆ เราแค่นี้จริง จริงในความจริง..จริง
จิตเป็นธาตุจิต เป็นคนละส่วนกับเรา แต่อยู่กับเรา เป็นธรรมชาติที่เกิดแล้วไม่สลายตัว อยู่คู่กับเราจริง
ร่างกายเป็นคนละส่วนกับเราโดยสิ้นเชิง มันไม่มีมาก่อน แต่ด้วยความไม่รู้จริงของจิต เราไม่รู้จักตัวเราจริง จิตมีอุปาทานสร้างภพชาติการเกิด สร้างขันธ์ ๕ ขึ้นมา มาด้วยความหลง ความอยากของจิต อุปาทานยึดทึกทักเองเออเอง พาเกิดพาทุกข์มานับชาติไม่ถ้วน ด้วยความไม่รู้จริง จริงในความจริงของตัวเราเองจริง ว่าความจริง ตัวเราจริง ๆ คือใจ ใจคือความรู้สึก ว่าง ๆ คือเราจริง เราคือเรา เราไม่มีอะไรมาตั้งแต่ต้น สงบ อิสระ เบิกบาน สิ่งนี้คือตัวเราเองจริง จริงตามธรรมชาติจริง จริงตามความจริง..จริง
นี่คือใจ ใจในดวงใจของเราทุกคน ทุกดวงจิตทั้งหมดจริง แต่หามีคนเห็นจริงในสิ่งนี้จริงมีน้อยมาก ๆ ที่มีคือยึดขันธ์ ๕ ร่างกาย ว่ามันเป็นเราเป็นของ ๆ เรา เรามีในมันมันมีในเรา ยึดรูปกาย กายหญิงกายชาย ยึดเวทนา ยึดความคิด ยึดความจำ ยึดอารมณ์ ยึดเอาถูก ยึดเอาผิด ยึดเอาดี ยึดเอาชั่ว ยึดเอาสุข ยึดเอาทุกข์ ยึดร่างกายนี้ ยึดร่างกายคนอื่น ยึดมั่นถือมั่นในความคิดเห็นเป็นใหญ่ ยึดเอาความชอบ ยึดเอาความไม่ชอบเป็นตัวเดินของตัวเอง ยึดสิ่งของภายนอกสิ่งต่าง ๆ ที่มันดำเนินในของ ๆ มัน ยึดประเทศ ยึดสิ่งทั้งหลาย ยึดไปหมด มีความอยาก มีความปรารถนา มีจิตแสวงหา มีความเกาะยึดผูกพัน มีความโลภ มีความโกรธ มีความหลง มีความต้องการทางเพศ ก็มาจากอุปาทานของจิตที่หลงติดยึดในขันธ์ ๕ ร่างกาย
คนในโลกนี้ล้วนมีสภาพอย่างนี้เหมือน ๆ กันหมด หาใจใครน้อยคนมาก ๆ ที่จะกลับมาเห็นจริง จริงในความจริง..จริง ว่าตัวเราจริง ๆ ไม่มี. ม่มีอะไรเป็นเราเป็นของ ๆ เรา เราไม่มีในมัน มันไม่มีในเรา เราคือเรา เราคือใจ เราคือความรู้สึก ว่าง ๆ สงบเย็น อิสระ เบิกบาน คือเราในความจริง...จริง
จิตไม่มีอะไร บริสุทธิ์มาตั้งแต่ต้นของความเป็นจิตนี้จริง สุขอยู่ที่ใจในภายใน ในความรู้สึกจริงของตัวใจเราเองจริง สุขใจจริง ใจสุขใจในความดีของใจพระท่านจริง ใจสุขใจนี้ดีที่สุดจริง จริงของใจเรา..จริง
การไม่เกิด การไม่มีร่างกายนี้อีกต่อไปจริง ดีที่สุดจริง จริงของใจเราจริง บ้านจริงของใจคือบ้านใจของใจพระท่านจริง คือพระนิพพาน พระนิพพานเป็นที่อยู่จริงของใจ ใจในความจริง ใจสุขใจจริง จริงในความดีของใจพระท่านจริง
นี่คือสิ่งที่พี่เห็นจริง มั่นใจจริง มั่นคงจริง จริงในสิ่งนี้จริง จริงของตัวพี่จริง ว่าเราจริง ๆ ไม่มี เราสุขด้วยใจเราเองจริง ใจสุขใจจริง ดีที่สุดจริงคือใจ ใจสุขใจในความดีของใตพระท่านจริง ใจสุขใจนี้ดีที่สุดจริง จริงของใจเราจริง ใจสุขใจจริง จริงในความดีของใจพระท่านจริง ใจสุขใจนี้คือจริง จริงในความจริง จริงที่สุดจริง จริงในนิพพานจริง จริงของทุกดวงใจในนิพพานจริง พี่เห็นของๆพี่อย่างนี้
ก็เอามาคุยให้อ่าน อาจเห็นไม่เหมือนใคร ก็น้อมขอขมา ขอโทษด้วยน้อ อาจคุยแบบไม่มีในตำรา ก็ขอโทษจริง ๆ พี่ก็คุยจริง จริงตามพี่เห็น เห็นของพี่เองจริง ก็น้อ ถือว่าคุยเล่น ๆ กัน สนุก ๆ เพลิน ๆ กัน ก็อ่านเล่น ๆ กันน้อ ก็ถือเป็นการคุย คุยแบบพี่ ๆ น้อง ๆ กัน เพลิน ๆ ใจกัน
พี่ก็บอกเสมอนะ พี่ไม่ได้สอน ยุคนี้จริง ๆ ไม่ต้องคุยอะไรมากในเรื่องของการปฏิบัติ ในเฟสบุ๊กเยอะมากคำสอนหาอ่านกันได้ ในหนังสือธรรมะก็มี มีทั้งฟัง ทั้งดู ทั้งอ่าน เยอะแยะมากมายน้อ
พี่ด้อยความรู้ ไร้ความดี มีแค่ใจ ใจเห็นจริงของใจ ในภายในของใจจริง มีแค่นี้
และเห็นตามพี่เห็น ส่วนจะให้ทุกคนเห็นตามกัน น้อ..ยาก ของใครของมัน ก็ได้แค่นี้แค่คุยเล่าเล่น ๆ ว่าในส่วนของพี่ พี่เห็นของ ๆ พี่อย่างนี้
พี่เฉย ๆ แล้ว ใครจะว่าใครจะติใครจะด่า ชีวิตผ่านอะไร ๆ มาเยอะแล้ว ทั้งชาตินี้และทุก ๆ ชาติที่ผ่านมา พี่เหนื่อยกับสิ่งไร้สาระมามากพอแล้ว ไม่เห็นจะได้อะไรจากในมันเลย จากการเกิด จากคน จากสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดของการเกิดมายาวนานแสนนานนี้ของพี่นี้จริง
วันนี้พี่ได้อะไร พี่ขอคุยตรง ๆ พี่ได้ความรักจริง ความจริงใจจริงที่แท้จริงจากใจจริง จริงจากใจพระท่านจริง จริงจากใจสมเด็จพ่อองค์ปฐมท่านจริง จริงจากใจพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์จริง จริงจากใจพระอรหันต์เจ้าทุกองค์จริง จริงในนิพพานจริง
พี่ได้สิ่งนี้ของใจทุกท่านจริง ชุ่มชื่นใจจริง อบอุ่นใจจริง สุขใจยิ่งจริงในความรัก ในความจริงใจ ในใจสงบสุขใจของใจทุกท่านจริง
เราจึงกล่าวว่า
"ใจเราสุขใจยิ่งจริงในความดีของใจพระท่านจริง"
วันนี้ใจของเราเป็นที่รักของเทวดานางฟ้าพรหม ที่ใจทุกท่านมีใจรักใจพระท่านจริง เดินใจไปกับใจเราจริง ในงานของพระท่านจริง เรามีสิ่งนี้ของใจเราจริง
เราจึงไม่สนใจจิตของคนที่มีอุปาทานจิต มีความอยาก มีความปรารถนา มีจิตดิ้นรน ยุ่งวุ่นวาย มีความเร่าร้อนของจิต ในความชอบ ในความไม่ชอบ ในความอยาก ในความยึดถือ เอาถูกเอาผิด เอาดีเอาชั่ว เอาสุขเอาทุกข์ ยึดถือร่างกาย ร่างกายนี้ ร่างกายคนอื่น ยึดทรัพย์ยึดวัตถุ ยึดความคิดเห็นเป็นใหญ่ มากด้วยทิฐิมานะ จิตอย่างนี้อยู่แล้วมีแต่ความเร่าร้อนในจิต หาใจสงบสุขเย็น ๆ ใจ จากจิตอย่างนี้ไม่มี
คุยตรงๆน้อ
ใจเราจึงไม่เอา เราก็ต้องการสุขใจ ใจของใจเราเองจริง เราก็เห็นความจริงว่าตัวเราจริง ๆ..ไม่มี ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของ ๆ เรา เราไม่มีในมันมันไม่มีในเรา เราก็เห็นตัวของเราจริง ว่าตัวเราจริง ๆ คือใจ ใจเราจริง ๆ ว่างไม่มีขอบเขต อิสระจริง เบิกบานจริง จริงของตัวใจเราเองจริง สิ่งนี้คือใจ ตัวใจของตัวเราจริง จริงในความจริง..จริง เราสงบสบายใจ อิสระใจ ในสิ่งนี้ของตัวใจเราเองจริง
เราเห็นของ ๆ เราอย่างนี้ เราก็อยู่ในส่วนของใจในภายใน ในความรู้สึกจริงของตัวใจเราเองจริง ใจเรารักใจพระจริง ใจเราจริงใจจริงกับใจพระจริง ใจเราให้ใจพระจริง ใจเรารู้สึกสุขใจยิ่งจริงในภายในของใจพระจริง เราก็อยู่ของ ๆ เราอย่างนี้จริง จริงของใจเราจริง จริงในความรู้สึกจริง จริงของตัวใจเราเองจริง
เราไม่แตะต้องในสิ่งที่มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของ ๆ เราจริง
เราไม่แตะต้องสิ่งที่ทำให้ใจของเราเป็นทุกข์
ทุกข์จากการเกาะยึดร่างกาย เราไม่เอา
ทุกข์จากการเกาะยึดกายคนอื่น เราไม่เอา
ทุกข์จากอุปาทานยึดมั่นถือมั่นในความคิดเห็น ในความชอบ ในความไม่ชอบ เราไม่เอา
ทุกข์จากความอยาก ความปรารถนา ความผูกพัน ในสิ่งที่ไม่ใช่ความจริง ไม่ใช่ของจริง ไม่ใช่ใจ ใจสุขใจจริง จริงของใจเราจริง เราไม่เอา
เราเอาความจริง เราเอาตัวใจเราจริง เราเอาสุขจริงของใจ ใจเอาสุขใจจริง จริงในความดีของใจพระท่านจริง เราเอาของเราแค่นี้
เราไม่เห็นสิ่งใด ๆ มี มีในความรู้สึกของใจ ในภายในของใจเราจริง ในใจเราเรารู้สึก...ไม่มี ใจรู้สึกแต่ความจริงของใจ ในความสงบเย็นว่าง อิสระ เบิกบานของตัวใจเราเองจริง เรารู้สึกจริงถึงใจ ใจสุขใจจริงในภายในของใจพระท่านจริง จริงในดวงใจพระท่านในนิพพานจริง ใจในใจ เรารู้สึกของ ๆ เราจริงแค่นี้จริง
ขันธ์ ๕ ร่างกายมันก็ดำเนินไปตามสภาพของมัน ทุกอย่างเรารู้ เจ็บรู้ หิวรู้ หนาวรู้ ปวดท้องถ่ายรู้ ทุกอย่างของร่างกาย อาการทางกายทุกอย่าง เรารู้หมด ใครคุย ใครว่า ใครด่า ใครติ ใครชม ใครยังไงกับเรา เรารู้หมด
งานทางกายต้องทำ..ก็ทำ ภาระทางโลกมี..ก็ทำ ทำมันทุกอย่าง ใครมาก็คุย คุยธรรมก็คุยไปตามรู้สึก ในความรู้สึกจริง จริงในใจพระท่านจริง ทุกอย่างปกติธรรมดาจริง แต่ในใจ ใจเรารู้สึกจริงแค่ใจ ในความรู้สึกว่าง ๆ สงบจริงของใจ ในความรู้สึกสุขใจจริง จริงในความดีของใจพระท่านจริง
กายรู้ ทุกอย่างของมัน มันคือมัน มันปกติในของมันทุกอย่างจริง คนธรรมดาจริง แต่ใจเราไม่สนใจ ใจสนใจจริงแค่ใจ ในใจสุขจริงของใจ ในความดีของใจพระท่านจริง เราอยู่ของ ๆ เราแค่นี้
ครับ ก็คุยให้เห็น ทำไมผลของใจจึงต่างกัน
เราเห็น..เห็นในสิ่งที่เห็น...ไม่เหมือนกัน
ใจเราอยู่..อยู่ในสิ่งที่อยู่...ไม่เหมือนกัน
ใจเราเอา..เอาในสิ่งที่เอา...ไม่เหมือนกัน
แล้วผลของใจ ใจในใจ จะมีเหมือนกันได้อย่างไร จริงไหม?
ก็น้อ ถือว่าคุยให้เห็นตรง ๆ กัน เราทุกคนก็กลับมาดูในใจตัวเองกัน เราเห็นอะไร เราเอาอะไร เราอยู่กับสิ่งใดของใจเรา กลับมาดู
ทำไมใจเราไม่สงบสุขใจของใจเราเองจริง ก็กลับมาดู
ทำไมใจเราไม่อยู่จริงเองจริง ในสงบนิพพานจริงเอง ด้วยใจของใจเราเองจริง ก็กลับมาดู
ทำไมใจเราไปเอาอะไร จึงไม่สงบสุขใจจริง จริงในความดีของใจพระท่านจริง จริงอย่างเดียวจริง จริงของใจตนจริง ก็กลับมาดู
ดูในใจของใจตัวเองจริง ๆ กัน คุณยึดอะไร พี่ยึดอะไร ทำไมผลจึงมีต่างกัน ก็กลับมาดู
อย่าใช้คำว่า "ก็เขาทำได้แล้ว"
เราไม่ได้ทำ เราเอาจริงในสิ่งที่เป็นจริง เป็นความจริง เป็นตัวใจเราจริง เป็นสงบสุขใจจริงของใจตัวเองจริง ใจเอาจริง รักจริง จริงใจจริง ยอมพระจริง ใจเชื่อใจพระจริง ใจให้ใจพระจริง จริงหมดใจจริง จริงจากใจ ในความรู้สึกจริง จริงของใจเราเองจริง เรารู้คุณพระจริง เรากตัญญูจริง..จริงกับใจทุกท่านจริง เราเห็นค่าจริงว่า ใจสงบสุขใจจริงมีค่าที่สุดจริง จริงของใจตัวเองจริง เราเห็นจริง จริงในใจรักจริงของใจพระท่านจริง เราเห็นค่าจริง จริงในความดีของใจพระท่านจริงมีค่าที่สุด ดีที่สุดจริง จริงของใจเราจริง
เราเห็นทุกข์ของการเกิดจริง เราเห็นทุกข์ของการมีร่างกายนี้จริง เราเห็นโทษเห็นทุกข์เห็นภัยจากจิตหลงเกาะยึดในมันจริง เห็นโทษของความอยากของจิตตนจริง เห็นโทษของจิตที่ติดยึดในทิฐิมานะมั่นในความคิดเห็นจริง เราเห็นความไม่มี สิ่งเหล่า ๆ นี้มันไม่มีจริงในความจริง..จริง มันไม่มีในตัวใจเราจริง มันไม่มีจริงในความรู้สึกว่าง ๆ ของต้วใจเราจริง เราจึงไม่ยึดในมันจริง เราจึงยึดความจริง ยึดตัวใจจริง ยึดความรู้สึกจริงของตัวใจเราจริง ใจในความจริง..จริง เรายึดจริง จริงในความดีของใจพระท่านจริง ดวงใจพระเป็นใหญ่จริง จริงอยู่เหนือใจเราจริง ทรงเป็นที่รักของใจเราจริง ทรงเป็นดวงใจที่ประเสริฐสุด ดีที่สุด มีค่าที่สุดจริง จริงของใจเราเองจริง เราจึงอยู่จริง จริงในดวงใจพระท่านจริง จริงด้วยใจ ในความรู้สึกของใจเราเองจริง อย่างมั่นคง จริงใจ รักจริง สุขใจยิ่งจริงในความดีของใจพระองค์ท่านจริง ก็มีแค่นี้เองจริง ๆ
ถ้าใจเธอทุกคนมี ก็มีผลเหมือนใจเราจริง ใจเธอเห็นจริง จริงตามพระท่านจริง จิตเธอสงบเองจริง จริงในความจริง จริงในตัวใจเธอจริง จริงในความดีของใจพระท่านจริง ๆ เอง
ธรรมไม่ใช่ความจริง ธรรมไม่ใช่ข้อธรรม ธรรมคือใจ ใจในความจริง..จริง ธรรมคือใจ ใจสงบสุขใจจริง จริงในความจริง จริงในใจพระท่านจริง จริงในใจ ใจสงบสุขใจจริง จริงในนิพพานจริง จริงในความรู้สึกจริงของใจ ใจในใจ..จริง ใจในใจพระท่านจริง นี่คือธรรมจริง จริงที่ใจ ใจสุขจริงของใจ ใจตั้งอยู่จริงเองจริง จริงในสงบนิพพานของใจเองจริง
ใจถึงธรรมจริง คือจริงถึงจริง จริงในความจริง..จริง จริงในใจพระท่านจริง จริงในใจสุขใจจริง จริงในความดีของใจพระองค์ท่านจริง ผู้บรรลุธรรมจริง..จริงคือใจ ใจถึงใจ ใจในใจจริง จริงในสุขจริงของใจ ใจสุขใจจริง จริงในความดีของใจพระองค์ท่านจริง มีสิ่งนี้จริง จริงเป็นหนึ่งจริง จริงของใจ ที่ใจ ในภายใน ในความรู้สึกจริงของใจเราจริง
สุขทั้งหมดมีอยู่จริงที่ใจอย่างเดียวจริง จริงตามคำตรัสของพระองค์ท่านจริง
เริ่มต้นของจิต..ไม่มี
สิ่งที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าคือ..ความว่างเปล่า
สุขทั้งหมดมีอยู่ที่ใจของตนเพียงอย่างเดียว
ลองกลับมาดูเล่น ๆ ในสิ่งนี้กันน้อ
ใจใครเห็นจริง ใจใครถึงจริง จริงในใจจริง ใจในความจริง..จริง ใจถึงจริง จริงในใจพระท่านจริง จริงในใจสุขจริงของใจพระท่านจริง จริงในความดีของใจพระองค์ท่านจริง จิตว่างจากการเกาะกายจริง มั่นคงจริง จริงในความดีของใจพระท่านจริง ตายแล้ว ดีเอง ถึงเองด้วยใจ ใจสงบสุขใจจริง จริงในความดีของใจพระองค์ท่าน จริง ๆ เอง...จริง
สาธุ โมทนานะ..ค่อย ๆ วางใจตามดู วางใจเล่น ๆ ดู ดีก็เอา
พี่ก็คุยของพี่ สบาย ๆ ของพี่ อย่าถือเอาเป็นตำรา พี่ไม่ได้สอนน้อ เข้าใจกัน
คนบ้าคุย อย่างนี้ดีกว่า คุยสบาย ๆ แบบพี่แบบน้องกัน คุยให้ใจสบายใจกัน ใครอ่านแล้วชอบ ก็เอา ตามสบาย พอเข้าใจน้อ
คนในโลกนี้มีแต่จิตที่ยึดว่า..มี
แต่ใจของท่านที่เห็นความจริง ใจสงบสุขใจจริงในใจพระท่านจริง ท่านเห็นว่า ไม่มี ไม่มีในสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมด ในความรู้สึกของใจท่านจริงมีจริงแค่ใจ ใจว่าง ๆ จริงของตัวใจท่านจริง ในความว่างของใจ มีดวงใจพระท่านสงบสุขเย็นใจ อบอุ่นนิ่มนวลใจในภายในของใจท่านจริง มีแค่นี้จริง จริงที่ใจท่านจริง ผลของใจจึงต่างกัน
จิตท่านหยุดเกิดจริง สงบจริงในนิพพานเองจริง แต่จิตคนทั้งหลายที่ยึดว่ามี พาหลงเกิดต่อไป ท่องเที่ยวไปในวัฏฏะสงสาร ด้วยอุปาทานของจิตติดยึดว่ามี มีดีมีชี่ว มีถูกมีผิด มีสุขมีทุกข์ จิตหลงยึดว่ามี อุปาทานขันธ์เกาะติดยึดในร่างกาย ยึดสิ่งต่าง ๆ ว่ามี ว่าเป็นเรา เป็นของ ๆ เรา เรามีในมันมันมีในเรา นี่คือจิตคนทั้งหลายที่ยึดว่ามี ต่างพาเกิดต่อไป
อุปาทานจิตเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดจริง
ผลของใจในใจ จึงต่างกับจิตของท่านที่สงบแล้วเองจริง จริงในความจริง..จริง จริงในความดีของใจพระท่านจริง จริงในสงบนิพพานจริง จริงของใจท่านจริง ในใจท่านไม่มี ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของ ๆ เราจริง เห็นความจริง..ไม่มี ใจว่างสงบอิสระสบายใจด้วยตัวใจของใจท่านเองจริง ใจท่านสุขใจในความดีของใจพระท่านจริง จิตมั่นความจริง จึงหยุดนิ่งสิ้นภพชาตืการเกิดเอง ผลเลยมีต่างกันกับจิตที่ยังยึดว่ามี
เราเห็นความจริง..ไม่มี
เราเป็นผู้ไม่มีอะไรของใจเราเอง...จริง
ใจเราสุขใจจริงด้วยความดีของใจพระท่านจริง
ครับ..พี่เห็นของพี่แค่นี้...ขอบคุณครับ
ยุคนี้เป็นยุคที่น่ากลัวมาก คนเมาตำราเยอะ แต่หาจิตเข้าถึงจริง จริงในความดี จริงในใจพระองค์ท่านจริง มีน้อยมาก ๆ แล้วก็ทึกทักเองเออเองในความคิดเห็นของตน แต่ผลจริงของใจ ในใจสุขจริงของใจ ใจในความดีของใจพระองค์ท่าน...ไม่มี
เขาเอาแค่รู้ และคิดไปตามความคิดของเขาน้อ น่าเสียดาย
ใจใครเชื่อใจพระพุทธเจ้าจริง ใจใครมั่นใจจริงในความดีของใจพระองค์ท่านจริง จิตนอบน้อมจริง รู้คุณจริง จริงในความดีของใจพระองค์ท่านจริง จิตดวงนี้ใกล้ความดีของใจพระองค์จริง..เองจริง
น่ากลัวน้อ..สมัยนี้..จิตคน เดินไปกับความคิดเห็นของตนเป็นใหญ่ มากด้วยทิฐิมานะ เอาความชอบไม่ชอบเป็นใหญ่
น้อ...โลกนี้ไม่น่าอยู่ พี่ไม่คิดแตะต้องเลย..จิตคน ใจเอาใจอยู่กับใจของใจพระองค์ท่าน..สงบสุขใจจริง ดีที่สุดจริงของใจเราเองจริง
นี่ถ้าท่านไม่ขอ....พี่ไม่ยุ่ง ว่ากันไป
นิพพานดีที่สุด ใจเราจึงอยู่แค่นี้จริงของใจเราเองจริง ไม่มี..ยึดถืออะไรกัน สุขจริง...ไม่มี...เอาอะไรกัน ดิ้นรนอะไรหาเหตุของทุกข์..เอามาเผาใจตนกันน้อ
จ๊ะ..ของใครของมัน..บ่นเล่น ๆ
จาก เฟสกลุ่มมงคลธรรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น