ธรรมดา..คือ..ธรรมดา
ถ้าเราไม่ยอมรับในกฎของธรรมดาทั้งหมดของมันในโลกนี้ ในร่างกายนี้ ในกฎของกรรม ในความเป็นธรรมดาในของๆ.มัน เราจะอยู่อย่างใจ..ใจสงบสุขใจ..ในภายในของใจตนจริงๆ ได้อย่างไร ถ้าจิตไม่ยอมรับ จิตฝืนในกฎของธรรมดา...จริงไหม
ฝืน..ไม่ยอมรับ ดิ้นรน อยากให้เป็นอย่างนั้นไม่อยากให้เป็นอย่างนี้ มีแต่สิ่งนี้ในจิตของตน ก็มีแต่ความเร่าร้อนเศร้าหมองในจิตของตน หาคำว่า สงบสุขใจ สงบอิสระใจ สงบสบายใจของใจตนจริงๆ..ไม่มี
แล้วตายแล้วจะไปไหน ถ้าจิตเศร้าหมอง จมอยู่กับสิ่งภายนอกที่มันเป็นของๆมันยั่งงี้เป็นปกติธรรมดาในของๆมันเองจริง
ผู้มีปัญญา เขาเห็น เขายอมรับ เขานับถือกฎของธรรมดา จิตเขาไม่แตะต้อง รู้อยู่ในภายในของใจตัวเองจริง สงบในความจริงของใจ ใจสงบสุขใจในความดีของใจพระท่านจริง ใจเขาอยู่จริงในสิ่งนี้จริงของใจเขาจริง อย่างเดียวจริง จิตยอมรับในกฎของธรรมดาจริง แยกกาย..แยกใจ..ชัดจริง ด้วยใจมั่นใจความจริงว่าตัวเราจริงๆ คือใจ ใจคือความรู้สึก ว่างๆ..สงบเย็น..อิสระ..เบิกบาน สิ่งนี้ของใจ ในภายในของใจเราเองจริง คือตัวเราจริง..จริงในความจริง..จริง จึงไม่เศร้าหมองไปกับสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเราจริง ไม่ใช่ของๆเราจริง ไม่ฝืนในกฎธรรมดาของมันจริง เราคือเราจริง มันคือมันจริง คนละส่วนกันจริง...แยกชัด สงบจริงในส่วนจริงของตัวใจเราเองจริง ใจสงบสุขใจจริงในส่วนจริงของใจ ในความดีของใจพระท่านจริง ในความรู้สึกจริงของใจ ในภายในของใจตนจริง มีแค่นี้เอง
มองเห็นทุกอย่างภายนอกทั้งหมด ธรรมดาคือธรรมดา...จริง ปกติในของๆมัน..ทุกอย่าง...จริง
เราไม่กลับมาเกิดแล้ว..เราพบแล้วสิ่งใดคือจริง..จริงในความจริง..จริง
เราพบแล้วที่หลงยึดถือมานานแสนนานนับชาติไม่ถ้วน พาจิตเราเวียนว่ายตายเกิดไม่จบไม่สิ้นมายาวนานแสนนาน มันไม่มีอยู่จริง มันไม่ใช่สุขจริงของใจเราจริง มันไม่มีอะไรเป็นเรา เป็นของๆเรา เราหลงในสิ่งที่มันไม่มี
อุปาทานจิตสร้างสิ่งนี้มันขึ้นมาเอง
สร้างภพสร้างชาติ สร้างขันธ์ ๕ ร่างกายมาทำร้ายใจเราเอง สร้างบุญสร้างบาป สร้างเวรสร้างกรรม ไม่จบไม่สิ้น หาอะไรเป็นสาระเป็นแก่นสาร เป็นของจริงในสิ่งเหล่าๆนี้...ไม่มี
ทุกอย่างล้วนมาจากความไม่มี..แต่อุปาทานของจิตสร้างมันขึ้นมาเอง สร้างการเกิด ทรมานกาย ทรมานใจมานับชาติไม่ถ้วน
เราพอแล้ว เราเหนื่อยกับสิ่งเหล่าๆนี้มามากพอแล้ว ทุกข์กายทุกข์ใจของการเกิดมามากพอแล้ว มันไม่มีอะไรเป็นเรา..เป็นของๆเราจริง เราทุกข์กับการเกิดบนความว่างเปล่าโดยแท้
แม้แต่ในชาตินี้ สุดท้ายทุกอย่างของม้นก็คือความว่างเปล่าทั้งหมดทั้งสิ้น ร่างกายนี้..ร่างกายคนอื่น..และวัตถุธาตุทั้งหมด สุดท้ายไม่มีคนไหนที่เกิดมาแล้วไม่ตาย..ไม่มี วัตถุธาตุทั้งหมดย่อมมีความเสื่อม..แตกสลาย..พังไปในที่สุด กลายเป็นความว่างเปล่าไปในที่สุด เป็นอดีต เป็นสิ่งที่ไม่มีในของๆมันเองจริง
เธอทั้งหลายเห็นตามเราไหม เรามาเอาอะไรกัน ในสิ่งที่สุดท้ายของมันล้วนคือความว่างเปล่าทั้งหมดทั้งสิ้น...นี้จริง
เธอจะฝืนในมันทำไม ในเมื่อทุกอย่างในสิ่งภายนอกทั้งหมด มันคือปกติในของๆมันอย่างนี้เอง ธรรมดาในของๆมันเอง..จริง มีประโยชน์อะไรในการเกิด ในเมื่อทุกอย่างล้วนคือความว่างเปล่า มีประโยชน์อะไรที่ต้องฝืนในมัน ในเมื่อทุกอย่างมันคือปกติธรรมดาในของๆมัน..ทุกอย่าง จะอยากหรือไม่อยาก จะชอบหรือไม่ชอบ จะดิ้นรนหรือสงบสุขใจ ทุกๆอย่างมันก็เป็นของๆมัน ธรรมดาในของๆมันอย่างนี้เอง
เธอจะอยู่อย่างใจ ใจสงบสุขใจ ใจอิสระใจ ใจสบายใจของใจจริง..จริงตามพระท่านจริง จิตยอมรับจริงในกฎของธรรมดาของมันจริง ยอมตามคำสอนของพระท่านจริง เห็นจริงตามพระท่านจริง จิตสงบจริงในความจริงของตัวใจเราเองจริง ใจสุขใจจริงในความดีของใจพระองค์ท่านจริง ใจอยู่อย่างใจเป็นใจจริง ใจสงบสุขใจในความรู้สึกว่าง สงบเย็นใจ ใจสงบสุขใจในภายในของใจพระท่านจริง จิตเย็นๆใจจริง ร่างกายพังใจลอยสู่นิพพานจริง..จริงตามพระท่านจริง
หรือ..หรือจะอยู่อย่างจิตดิ้นรน อยาก ปรารถนา แสวงหา ยึดในสิ่งต่างๆ ฝืนไม่ยอมรับในกฎของธรรมดาในความเป็นไปของโลก ในความเป็นไปของทุกอย่างในโลก ของคนที่เกิดมามีแต่อุปาทานจิต มีแต่ความอยากของจิต มีแต่จิตเป็นอกุศล มีจิตคิดดีมีจิตคิดชั่ว มีสิ่งเหล่าๆนี้ในธรรมดาของจิตของคนที่เกิดมาในโลกนี้ มีกฎของกรรม ทุกคนเกิดมาล้วนมีกรรมเป็นของๆตน ทำมายังไงย่อมได้รับในผลของกรรมที่ต่างคนต่างทำมา เป็นอย่างนี้เป็นธรรมดาจริง ทุกอย่างของร่างกายมันก็เป็นของๆมันอย่างนี้เอง หาอะไรเป็นสุขจริงจากการเกิด จากการมีร่างกายนี้ไม่มี
จิตที่ไม่เห็นจริงว่า ใจกับกายเป็นคนละส่วนกันจริง จิตเกาะยึดกาย ยึดกายนี้ยึดกายคนอื่น ยึดวัตถุธาตุต่างๆ เอามาเป็นเราเป็นของๆเรา อยากมีอยากได้อยากสุข อยากในสิ่งนั้นในสิ่งนี้ไม่จบไม่สิ้นในความอยากของจิต ไม่เห็นจริงตามพระท่านจริง จิตไม่ยอมรับในความเป็นธรรมดาในทุกอย่างในของๆมันจริง จิตมีแต่ความวุ่นวายเร่าร้อนด้วยความอยาก มีจิตเป็นอกุศล ตำหนิติเตียนเพ่งโทษกัน ทำร้ายกันทางวาจา ทางใจและทางกาย จิตเศร้าหมองเป็นทุกข์ด้วยยึดในสิ่งที่มันไม่เที่ยงมันแปรปรวน มันเกิด มันดับ มันสลายตัว มันกลายเป็นความว่างเปล่าไปในที่สุด
เธอจะมีชีวิตของเธออยู่อย่างนี้หรือ อย่างจิตที่ขาดสติขาดปัญญา จมอยู่กับสิ่งที่มันไม่ใช่เรา มันไม่ใช่ของๆเรา เราไม่มีในมัน มันไม่มีในเรา ดิ้นรน อยาก แสวงหา ปรารถนา ยึดเกาะในสิ่งที่มันจริงๆ มันไม่มีอยู่จริง..จริงในความจริง..จริง แล้วพาจิตของเธอหลงเกิดต่อไปไม่จบไม่สิ้น หาคำว่า.ใจ..ใจสงบสุขใจจริงของใจจริงๆ...ไม่มี..ไม่มีตามพระท่านจริง
เธอจงกลับมา..มาดูในสิ่งนี้ของจิตของเธอ...จริงๆกัน
เธอจะอยู่ยังไงของตัวเธอจริง จึงจะมีผลจริงที่ดีจริง..จริงกับใจของใจเธอเอง..จริงๆๆ
เลือกเอา
ทุกอย่างพระองค์ท่านทรงสอนไว้หมดแล้ว
หลวงพ่อท่านสอนไว้ดีหมดแล้วในข้อธรรมทั้งปวงที่พระองค์ทรงตรัสไว้ เธอทุกคนก็ได้อ่าน ได้ยิน ได้ฟัง ได้ปฏิบัติธรรม อะไรๆก็รู้หมดแล้ว...จริงไหม
ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับใจของใจทุกคนเอง ที่จะกลับมาดูในใจตัวเองจริง ใจเราจะอยู่อย่างไรจริงของใจเราจริงจึงจะมีผลดีจริงกับใจของใจเราเองจริง
ก็เลือกดู น้อ..
พระท่านเป็นแต่เพียงผู้บอก ผู้ปฏิบัติคือเราทุกคน ใครทำอย่างไรย่อมได้อย่างนั้นตรงไปตรงมาจริง
ก็แล้วแต่ใจของใครจริง ใจใครวางใจเดินใจยังไงของใจตน ย่อมได้ในสิ่งที่ตนวางใจเดินใจของใจตนจริง ก็ของใครของมันจริง..จริงไหม
ก็กลับมาดู..กลับมาเอาในสิ่งที่เป็นความจริง เป็นเราจริง เป็นสุขใจจริงของใจจริง..จริงตามพระท่านจริง ผลจริงจึงจะมีจริง..จริงกับใจของใจเราเองจริง จริงตามพระท่านจริง จริงตรงไปตรงมาจริง จริงในสิ่งนี้ของใจ...จริงๆเอง
พระท่านเป็นแต่เพียงผู้บอก ผู้ปฏิบัติคือเราทุกคน ใครทำอย่างไรย่อมได้อย่างนั้นตรงไปตรงมาจริง
พระท่านเป็นแต่เพียงผู้บอก ทรงบอกหมดแล้วจริง..จริงในความจริง...จริง เราเป็นผู้ปฏิบัติ ก็เลือกเอา ใครทำอย่างไรย่อมได้ในสิ่งนั้นตรงไปตรงมาจริง ของใครของมันจริง
จิตใครยอมรับจริงในกฎของธรรมดาจริง จิตว่างจากการเกาะกายจริง สงบจริงในสงบใจในภายใน ในความรู้สึกจริงของใจ ในตัวใจของใจจริง ใจสงบสุขใจจริง จริงในภายใน ในความดีของใจพระท่านจริง ใจพอใจไม่เกิดจริง มั่นคงจริงในความดีของใจพระองค์ท่านจริง ใจรักใจตัวเองจริง ใจรักใจพระจริง ใจยอมจริง..จริงในความดีของใจพระองค์ท่านจริง จิตสงบสุขใจในใจจริง ร่างกายพัง ใจก็ไปนิพพานจริง จริงตามพระท่าน..จริงเอง ตรงไปตรงมาในสิ่งนี้ของใจ...จริงเอง..จริง
แต่ในทางกลับกัน จิตใครฝืนกฎของธรรมดา จิตเกาะร่างกาย ร่างกายนี้ ร่างกายคนอื่น วัตถุธาตุทั้งหลาย มีอุปาทานจิตยึดคิดทึกทักเองเออเอง ไม่เชื่อพระพุทธเจ้าจริงในคำสอนของพระองค์ท่านจริง จิตมีความอยาก มีความวุ่นวาย มีความดิ้นรน ยึดมั่นถือมั่นเอาความคิดเห็น เอาความชอบความไม่ชอบของจิตตนเป็นใหญ่ ไม่มองเห็นความจริง...จริงตามคำสอนของพระองค์ท่านจริง ฝืนกฎของธรรมดาของโลกของร่างกายของกฎของกรรม จิตมีแต่ความวุ่นวายเร่าร้อนเศร้าหมองจิต ร่างกายพัง ขาดสติขาดปัญญาธรรมจริง ไม่เห็นจริงในความจริงจริงตามพระท่านจริง จิตออกจากกายเวลาตาย ก็ไปตามสภาวะของจิตของแต่ละคน ไปตามบุญตามบาปตามกรรมของแต่ละคน ตามอุปาทานจิตของแต่ละคน หลงเกิดต่อไปในวัฏสงสารนี้ต่อไปตามทางของแต่ละดวงจิตนี้จริง
เธอลองกลับมาดูในสิ่งนี้จริงๆกัน
ใจของเธอจะอยู่อย่างไรจริงของใจเธอจริง จึงจะมีผลดีจริงกับใจของใจเธอเองจริง..จงเลือกเอา
เธอเห็นชัดไหม..ในสิ่งนี้จริง..ว่า ธรรมดา..คือ..ธรรมดา
ถ้าเราไม่ยอมรับในกฎของธรรมดาทั้งหมดของมันในโลกนี้ ในร่างกายนี้ ในกฎของกรรม ในความเป็นธรรมดาในของๆ.มัน เราจะอยู่อย่างใจ..ใจสงบสุขใจในภายในของใจตนจริงๆ ได้อย่างไร ถ้าจิตไม่ยอมรับ จิตฝืนในกฎของธรรมดา...จริงไหม
ฝืน..ไม่ยอมรับ ดิ้นรน อยากให้เป็นอย่างนั้นไม่อยากให้เป็นอย่างนี้ มีแต่สิ่งนี้ในจิตของตน ก็มีแต่ความเร่าร้อนเศร้าหมองในจิตของตน หาคำว่า สงบสุขใจ สงบอิสระใจ สงบสบายใจของใจตนจริงๆ..ไม่มี
แล้วตายแล้วจะไปไหน ถ้าจิตเศร้าหมอง จมอยู่กับสิ่งภายนอกที่มันเป็นของๆมันยั่งงี้เป็นปกติธรรมดาในของๆมันเองจริง
ผู้มีปัญญา เขาเห็น เขายอมรับ เขานับถือกฎของธรรมดา จิตเขาไม่แตะต้อง รู้อยู่ในภายในของใจตัวเองจริง สงบในความจริงของใจ ใจสงบสุขใจในความดีของใจพระท่านจริง ใจเขาอยู่จริงในสิ่งนี้จริงของใจเขาจริง อย่างเดียวจริง จิตยอมรับในกฎของธรรมดาจริง แยกกาย..แยกใจ..ชัดจริง ด้วยใจมั่นใจความจริงว่าตัวเราจริงๆ คือใจ ใจคือความรู้สึก ว่างๆ..สงบเย็น..อิสระ..เบิกบาน สิ่งนี้ของใจ ในภายในของใจเราเองจริง คือตัวเราจริง..จริงในความจริง..จริง จึงไม่เศร้าหมองไปกับสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเราจริง ไม่ใช่ของๆเราจริง ไม่ฝืนในกฎธรรมดาของมันจริง เราคือเราจริง มันคือมันจริง คนละส่วนกันจริง...แยกชัด สงบจริงในส่วนจริงของตัวใจเราเองจริง ใจสงบสุขใจจริงในส่วนจริงของใจ ในความดีของใจพระท่านจริง ในความรู้สึกจริงของใจ ในภายในของใจตนจริง มีแค่นี้เอง
มองเห็นทุกอย่างภายนอกทั้งหมด ธรรมดาคือธรรมดา...จริง ปกติในของๆมัน..ทุกอย่าง...จริง
ใจเห็นจริง..จริงตามความจริง จริงตามพระท่านจริง จิตของเธอสงบเอง..เย็นเอง..อิสระเอง..สบายใจเอง
ใจเธอเชื่อใจพระพุทธเจ้าจริง ยอมพระจริง รักใจพระองค์จริง จิตของเธอย่อมสุขใจเองจริง จริงในความดีของใจพระองค์ท่านจริงเอง..จริง ใจสุขใจจริงในความดีของใจพระท่านจริง จิตสงบเย็นใจจริงในสงบนิพพานจริง..จริงตามพระท่านจริง..จริงๆเองจริง จิตสงบในธรรมจริง ในความจริงของใจจริง ในความรู้สึกว่างๆสงบเย็น..อิสระ..เบิกบานจริงของตัวใจจริง จิตสงบสุขใจจริงในความดีของใจพระองค์ท่านจริง จิตมั่นคงจริงในสิ่งนี้ของใจจริง จิตสว่างใจในสงบจริง..จริงในนิพพานของใจพระท่าน..จริงเอง...จริง
ลองวางใจเล่นๆ ตามนี้..ดู
ยอมรับในความเป็นธรรมดา...กับฝืนกฎของธรรมดา....ผลของใจ..มันต่างกันน้อ ยังไงๆ..ทุกอย่างมันก็ต้องเป็นของๆมันอย่างนี้ ปกติธรรมดาในของๆมันเองจริง
ยอมรับ..มันก็เป็นของๆมันอย่างนี้
ไม่ยอมรับ..มันก็เป็นของๆมันอย่างนี้
จริงไหม
แล้วเธอจะอยู่อย่างไรจริงของใจเธอจริง จึงจะมีผลดีกับใจของใจเธอเองจริง
เธอเป็นคนมีปัญญา..พี่เชื่อ คงกลับมาเห็นในสิ่งนี้ของใจเธอเองจริง คงไม่มีใครคิดทำร้ายใจตัวเอง..จริงไหม
ใครฝืนกฎของธรรมดา แล้วจิตของตนทุกข์เศร้าหมอง ก็น้อ..โคตรโง่เลย ในเมื่อมันเป็นของๆมันอย่างนี้ปกติธรรมดาของมันทุกอย่าง ใจเราฝืนไม่ยอมรับแล้วใจเราเป็นทุกข์ โคตรโง่จริงๆ
เหตุใดทำร้ายใจตัวเองไปทำไม ในเมื่อเสือกเกิดมาเอง มาอยู่ในสิ่งเหล่าๆนี้เอง แล้วฝืนไม่ยอมรับในมันให้ทุกข์ใจอีก โง่จริงๆ...น้อ
อันนี้พี่กล่าวโทษตัวพี่เอง...โคตรโง่น้อ เสือกเกิดมาเองไม่พอ เกิดมาแล้วฝืนความเป็นธรรมดาของมันอีก ให้จิตตนเศร้าหมองเป็นทุกข์ ทุกข์จากการมีร่างกายมันก็มากพอแล้ว จิตทุกข์จากสิ่งนี้อีก ไม่ยอมรับในกฎของธรรมดาของมัน ทุกข์ทั้งกายทุกข์ทั้งใจ เรานี่โคตรโง่เลย..น้อ
ต้องกล่าวโทษโจทก์ความผิดพลาดของจิตตน
ถ้าไม่มองความผิดพลาดในสิ่งนี้ของจิตของตนจริงๆ เมื่อไหร่จิตของเราจะก้าวออกจากทุกข์ จากการเกาะยึดร่างกาย จากอุปาทานของจิต จากความอยากของจิต จากความโง่ของจิตที่ไม่ยอมรับในกฎของธรรมดาจริง..จริงตามพระท่านจริง
เราไม่กลับมาดูจริงในสิ่งนี้ของจิตตนจริงๆ เมื่อไหร่จิตเราจะพ้นทุกข์จริงของจิตของตนจริง...จริงตามพระท่านจริง
จะใช้ชีวิตอยู่อย่างนี้หรือ..จิตหลงจมอยู่กับมันไปวันๆๆ หาคำว่า.ใจ..ใจสงบสุขใจของใจจริง...จริงตามพระท่านจริงๆ...ไม่มี
เราจะทำร้ายใจของเราไปถึงขนาดไหน ที่ผ่านมานับชาติไม่ถ้วน เราก็อยู่อย่างใจ ใจหาคำว่า.ใจ..ใจสุขจริงของใจจริงๆ...ไม่มี มันมากพอแล้วกับความทุกข์ของจิตของตน
อันนี้พี่คุยกับใจพี่น้อ มันมากพอแล้ว ทรมานในความโง่ของจิตของตนมามากพอแล้ว
หยุด..หยุดใจ..อยู่กับใจสุขใจของใจจริงๆ..ดีกว่า
วันนี้เราเห็นชัดแจ้งใจในใจเราแล้ว ยอมรับจริงในกฎของธรรมดาจริง จิตสงบจริงเองจริง เรากลับมานิ่งๆ จริงในความรู้สึกว่างๆจริงของใจ ในภายในของตัวใจเราเองจริง สงบสบายใจเราจริง ใจเรารักใจเราจริง ใจเรารักใจพระท่านจริง จิตว่างจากการเกาะกายจริง..สงบยิ่ง..อิสระจริง..ว่าง..สบายใจของใจเราเองจริง
ใจยอมพระจริง..ใจเชื่อจริงในความรักของใจพระองค์จริง..ใจท่านทรงรักใจเราจริง..ใจท่านทรงจริงใจจริงกับใจเราจริง ใจท่านให้ใจเราจริง ทรงไม่เคยทอดทิ้งใจของใจเราจริง
ใจท่านสงบสุขใจยิ่ง..อบอุ่นจริง..สุขใจในใจของใจพระองค์ท่านจริง ใจท่านประเสริฐสุดยิ่ง มีพระคุณยิ่งจริงกับใจเราจริง ใจพระองค์ท่านมีค่าที่สุดจริง..จริงในใจของใจเราจริง สูงค่ายิ่ง..ยิ่งกว่าสิ่งใดๆทั้งหมดจริง
เรารักใจท่านหมดใจเราจริง นอบน้อมยอมจริง..สิ้นสงสัยจริงในคำสอนของพระองค์จริง ทรงตรัสหนึ่งไม่เป็นสอง จริงคือจริง..จริง จริงจากใจพระองค์จริง..ที่ทรงเห็นจริง..จริงในความจริง..จริง แล้วทรงนำสิ่งนี้มาบอกกล่าวจริง ด้วยใจรักจริงของใจพระองค์จริง ที่ทรงมีกับใจเราจริง และจิตทุกดวงจิตจริง ด้วยใจรักจริงของใจพระองค์ท่าน...จริง
เราหมดสงสัยในสิ่งนี้ของใจพระองค์จริง รักใจท่านยิ่ง สุขใจจริงในความดีของใจพระองค์ท่านจริง
เราเห็นสิ่งนี้จริงของใจ..คือจริงในความจริง..จริง
จึงยึดใจเป็นใหญ่..ใจสงบสุขใจในความดีของใจพระองค์จริง..สิ่งนี้ดีที่สุดจริง...จริงของใจเรา...จริง
พี่มีของๆพี่แค่นี้..จริงในใจของใจพี่จริง
รักใจพระท่านจริง
เมื่อคืนก่อนนอน มีคนส่งข้อความมาคุย พี่ไม่รู้จัก
เขาขอเป็นเพื่อน เขาถามพี่ว่า พี่เป็นลูกศิษย์สายหลวงพ่อวัดท่าซุงหรือ
พี่รู้สึกว่าคำว่า 'สาย..สายนั้นสายนี้' พี่ไม่มี ในใจพี่ไม่มี
มีสายเดียวจริง สายตรงจริง..จริงจากใจพระท่านจริง จริงจากใจสุขใจจริงของใจพระองค์ท่านจริง จริงจากใจ ใจสุขใจของใจพระทุกดวงใจในนิพพานจริง จริงจากใจ ใจสุขใจของใจหลวงพ่อท่าน ใจสุขใจของใจหลวงพี่ท่านจริง ใจมีแค่นี้จริงของใจเราจริง
เราจึงบอกเขาว่า..
"ผมมีใจรักพระ หลวงพ่อท่านคือผู้มีคุณยิ่งในใจผม"
บอกเขาอย่างนี้ เราไม่แยกว่าเราคือสายนั้นสายนี้
เราเชื่อใจ ใจหลวงพ่อ ใจพระทุกองค์ที่มั่นคงในคุณพระรัตนตรัย ใจของทุกท่านจริง ใจย่อมมีใจ ใจรักใจพระพุทธเจ้าท่านจริง จิตของท่านสงบสุขใจจริง..จริงในความดีของใจพระองค์ท่านจริง สิ่งนี้มีในใจพระทุกองค์จริงที่มีใจ..ใจรักใจพระองค์ท่านจริง
ไม่มีสายนั้นสายนี้ มีสายเดียวจริง สายตรง..ตรงจริง จริงในใจสุขใจจริง จริงในความดีของพระองค์ท่านจริง
คนสมัยนี้อุปาทานเยอะ แบ่งแยก มีความคิด มีความชอบมีความไม่ชอบ มีทิฐิมานะ และห้ำหั่นกันด้วยอุปาทานจิต ที่มั่นในความคิดเห็นของจิตตนเป็นใหญ่ แล้วพระศาสนาของพระองค์ท่านจะเจริญรุ่งเรืองอย่างไร ถ้าไม่มีใจ..ใจสงบสุขใจจริง จริงในความดีของใจพระองค์ท่านจริง ใจอยู่จริงด้วยใจ ใจรักใจกันจริง ใจจริงใจจริงกับใจกันจริง ใจคิดให้ใจเป็นสุขใจที่ใจกันจริง จริงตามพระท่านจริงน้อ
อ่านแล้ว..ก็อ่านเพลินๆไป สิ่งใดมีประโยชน์สุขจริงกับใจของใจตนจริง...ก็เอา
ทุกอย่างในโลกนี้..คือ.ธรรมดา..จริง
ธรรมดา..คือ..ธรรมดา
ใจใครยอมรับนับถือกฎของธรรมดาจริง...จิตสงบจริงเองจริง..เอง
เราขอยืนยัน
ใจเข้าถึงจริงในความดีของใจพระท่านจริง ใจเราสุขใจจริง..จริงในความดีของใจพระองค์ท่านจริง..เองจริง
ใจใครสงบสุขใจจริงในสิ่งนี้ของใจตนจริง จิตสงบเย็นๆใจจริง จริงในความดีของใจพระองค์ท่านจริง จิตสว่างนิพพานเองจริง
ครับ..อ่านแล้ว..ลองวางใจเล่นๆๆ..ตามดู
ดีก็..เอา
ธรรมดา..คือ..ธรรมดา
ถ้าเราไม่ยอมรับในกฎของธรรมดาทั้งหมดของมันในโลกนี้ ในร่างกายนี้ ในกฎของกรรม ในความเป็นธรรมดาในของๆ.มัน เราจะอยู่อย่างใจ..ใจสงบสุขใจ..ในภายในของใจตนจริงๆ ได้อย่างไร ถ้าจิตไม่ยอมรับ จิตฝืนในกฎของธรรมดา...จริงไหม
ฝืน..ไม่ยอมรับ ดิ้นรน อยากให้เป็นอย่างนั้นไม่อยากให้เป็นอย่างนี้ มีแต่สิ่งนี้ในจิตของตน ก็มีแต่ความเร่าร้อนเศร้าหมองในจิตของตน หาคำว่า สงบสุขใจ สงบอิสระใจ สงบสบายใจของใจตนจริงๆ..ไม่มี
แล้วตายแล้วจะไปไหน ถ้าจิตเศร้าหมอง จมอยู่กับสิ่งภายนอกที่มันเป็นของๆมันยั่งงี้เป็นปกติธรรมดาในของๆมันเองจริง
ผู้มีปัญญา เขาเห็น เขายอมรับ เขานับถือกฎของธรรมดา จิตเขาไม่แตะต้อง รู้อยู่ในภายในของใจตัวเองจริง สงบในความจริงของใจ ใจสงบสุขใจในความดีของใจพระท่านจริง ใจเขาอยู่จริงในสิ่งนี้จริงของใจเขาจริง อย่างเดียวจริง จิตยอมรับในกฎของธรรมดาจริง แยกกาย..แยกใจ..ชัดจริง ด้วยใจมั่นใจความจริงว่าตัวเราจริงๆ คือใจ ใจคือความรู้สึก ว่างๆ..สงบเย็น..อิสระ..เบิกบาน สิ่งนี้ของใจ ในภายในของใจเราเองจริง คือตัวเราจริง..จริงในความจริง..จริง จึงไม่เศร้าหมองไปกับสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเราจริง ไม่ใช่ของๆเราจริง ไม่ฝืนในกฎธรรมดาของมันจริง เราคือเราจริง มันคือมันจริง คนละส่วนกันจริง...แยกชัด สงบจริงในส่วนจริงของตัวใจเราเองจริง ใจสงบสุขใจจริงในส่วนจริงของใจ ในความดีของใจพระท่านจริง ในความรู้สึกจริงของใจ ในภายในของใจตนจริง มีแค่นี้เอง
มองเห็นทุกอย่างภายนอกทั้งหมด ธรรมดาคือธรรมดา...จริง ปกติในของๆมัน..ทุกอย่าง...จริง
เราไม่กลับมาเกิดแล้ว..เราพบแล้วสิ่งใดคือจริง..จริงในความจริง..จริง
ใจเราสุขใจจริงในความดีของใจพระองค์ท่านจริง
ใจเรามีจริงแค่นี้จริง จึงลอยตัวจริงเองจริงในสงบจริง ในนิพพานจริง..จริงของใจ ในความรู้สึกของใจจริง จริงในภายในของใจเราเองจริง ใจสุขใจจริง คือจริงในความจริง..จริงในใจเราจริง จริงในใจพระทุกดวงใจในนิพพานจริง เรามั่นใจในสิ่งนี้ของใจตัวเองจริง ใจสุขใจในความดีของใจพระองค์จริง ใจสุขใจจริงนี้..ดีที่สุดจริง..จริงของใจตนจริง
มีแค่นี้เอง
ใจสุขใจจริงในความดีของใจพระท่านจริง..คือพระนิพพานจริง..จริงของใจเราจริง
พี่เอาสิ่งนี้ของใจพี่จริง
ใครชอบ..ก็เอา..น้อ..ตามสบายใจของแต่ละคนกัน
ขอบคุณครับ
คนต่างก็ต้องการความพ้นทุกข์ของใจตน..จริงๆ...
เราก็หาความจริง..หาใจสุขใจของใจจริง...เราก็หาในสิ่งนี้ของใจเราจริง..เหมือนกัน
ก็ครับ...พี่ก็คุยตรงๆจริง..จริงจากใจพี่จริง
ใครเห็นชอบ..ก็ลองวางใจตรงๆ..เล่นๆดู
ใจสุขใจในใจจริง..ของใจทุกคนเองจริง..จะเป็นเครื่องยืนยันเอง
ที่สุดแล้ว..พี่บอกได้แค่นี้..
'จุดจบจริงของใจจริง..มาจบจริงที่ใจ
ใจในความดีของใจพระองค์ท่านจริง'
มีแค่นี้เอง...จริงๆ
เราเห็นจริงตามท่านจริง ใจเราสุขใจจริงด้วยพระบารมีธรรมจริงของใจพระองค์จริง จึงสุขใจยิ่งจริงในสิ่งนี้ของใจพระองค์ท่านจริง
เราจึงกล่าวว่า....
ใจสุขใจในความดีของใจพระท่านจริง...คือ..จริง จริงในความจริง..จริง จริงในใจเราจริง จริงในนิพพานจริง จริงของใจในทุกดวงใจในนิพพานจริง ที่ทุกท่านมีใจรักจริง จริงใจจริง ใจให้ใจจริง ใจในใจสุขใจจริง..จริงในใจรักจริงของใจพระองค์ท่านจริง สมเด็จพ่อองค์ปฐม จริง รักใจพ่อจริง สุขใจในใจพ่อจริง ใจสุขใจจริงนี้จริงของใจเราจริง
ใจสุขใจนี้ดีที่สุดจริง สุขใจยิ่ง สงบเย็นจริง อบอุ่นจริง..นิ่มนวลจริง สุขใจยิ่งจริงในความดีของใจพ่อจริง
สุขเย็นๆใจนี้..สุขใจจริงนี้คือ..นิพพานธรรมจริง..จริงของใจเราจริง
พอแล้ว..พบแล้ว..ใจสุขใจนี้มีค่าที่สุดจริงของใจตนจริง จึงหยุดสงบนิ่งจริงของใจเองจริง..จริงในสงบนิพพานจริง จริงที่ใจ ในภายใน..ในความรู้สึกจริง จริงของใจเราเองจริง
จ๊ะ..ตามนี้..จริงๆๆ
พี่คนธรรมดาจริง...ไม่ใช่พระอริยะ..น้อ..ไม่ใช่
เป็นคนธรรมดาที่มีใจ..ใจรักใจพระจริง
ใจเห็นค่าจริงของใจ
ในความดีของใจพระองค์ท่านจริง
ใจพระทุกดวงใจจริง
มีค่าที่สุดจริง..จริงของใจพี่จริง
ใจจึงสงบสุขใจจริงในสิ่งนี้ของใจตนจริง
มีแค่นี้เอง
ตายแล้วไปไหน..พี่ยังไม่รู้
รู้แต่ใจ..ใจสุขใจในสิ่งนี้ของใจตนจริง
เราสุขใจในใจพระท่านจริง
สุขใจนี้ดีที่สุดจริงของใจเราจริง พอ
อิ่มสุขในธรรมจริง..จริงในใจพระองค์จริง
จิตไม่เคลื่อนจริง..จริงจากความดีของใจพระองค์จริง
ด้วยใจรักจริง..เชื่อใจพระองค์จริง
ให้ใจพระองค์จริง
ใจสุขจริงในความดีของใจท่านจริง
สุขใจนี้เป็นที้สุดจริงของใจตนจริง..
จริงที่ใจ..ใจสุขใจของใจจริง
พอ
จาก เฟสกลุ่มมงคลธรรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น