คุยอะไรดีล่ะ เมื่อคืนนอนหลับก็ฝันเรื่องมโมยิทธิ ตื่นมาท่านให้คุยเรื่องมโนมยิทธิ พี่ก็นิ่ง ๆ อยู่นี่ คุยดีหรือไม่ดี มโนมยิทธิของตัวเองก็งู ๆ ปลา ๆ อาศัยมั่วเก่ง เลยไม่กล้าคุย แต่ในใจหมดสงสัยนานแล้วเรื่องนรกสวรรค์พรหมนิพพาน ผีเทวดานางฟ้า เจอกับตัวเองจ๊ะ หลายปีแล้ว เรื่องนี้ไม่สงสัยอีกต้อไป เชื่อพระพุทธเจ้าท่านว่ามีจริง จริงตามท่านตรัสทุกอย่างจริง เรื่องนรกสวรรค์พรหมนิพพาน ผีเทวดานางฟ้าพรหม เจอกับตัวเองจึงหมดสงสัย นิสัยจริง ๆ ของพี่เป็นคนเชื่ออะไรยาก ถ้าไม่เจอด้วยตัวเอง ใครพูด เอาไว้ก่อน จะเชื่อก็ต่อเมื่อสิ่งนั้นพบด้วยตัวของตัวเองจริง เนี่ยนิสัยไม่ดี 5555
มโนมยิทธิ ประสบการณ์ของพี่ถ้าจะเล่ามีน้อยมาก พี่ไม่ได้เห็นชัดเหมือนคนอื่นเขา ถือว่าเป็นรุ่นอนุบาลน้อ ก็ต้องคุย ท่านให้หัวข้อมาอย่างนี้ "มโนมยิทธิ" พอจะไม่คุยท่านก็ย้ำอยู่อย่างนี้ "มโนมยิทธิ" เลยต้องคุย ก็อ่านเล่น ๆ น้อ สนุก ๆ เพลิน ๆ ใจไปกันน้อ
แรกเริ่มเดิมจริง ๆ เป็นคนที่หยาบมาก สมัยเด็ก ๆ คุณแม่ชวนไปวัดไปทำบุญพี่ไม่ค่อยไป ไม่ศรัทธานักบวช คุยตรง ๆ น้อ บ้านอยู่ใกล้วัดเห็นอะไรหลาย ๆ อย่างที่ไม่เหมาะสม เรรไม่ศรัทธาจะไปก็ตอนวัดมีงาน มีหนังกลางแปลง มีของขายเนี่ยไป 5555
มาตอนคุณพ่อเสีย ปี 25 มาเผาศพท่านปี 26 พี่ชายบวชให้คุณพ่ออยู่ที่วัดใกล้บ้าน ตอนท่านจะสึกท่านจะมาเทศน์ที่บ้าน ท่านได้หนังสือของหลวงพ่อ ท่านจะเอามาเทศน์ พอดีพี่ไปหาท่านที่วัด ปกติไม่สนใจธรรมะ ยังละอ่อนอยู่ รุ่น 55 ตอนนั้นเรียนปวช ปี1 พาณิชยการสยามแถวบางพลัด ก็วัยรุ่นแล้วตาเริ่มมองสาว ๆ 5555 แต่ไม่กล้าจีบ กลัว..กลัวตัวเองรำคาญ 55 คนเดียวสบาย ๆ มาเดินตามต้อย ๆ ทำไม 5555 เป็นอย่างนี้จริง ชอบอิสระไม่ยุ่งเรื่องพวกนี้ตั้งแต่วัยรุ่น ไม่เอา รำคาญ ชอบอิสระ
ก็ไปที่วัดหาท่าน เห็นท่านอ่านหนังสือธรรมะของหลวงพ่อก็สนใจ อยากรู้ท่านอ่านอะไร ก็ขอยืมท่านมาอ่านที่บ้าน ก็เอามาอ่านก่อนนอน ตอนนั้นนอนตรงห้องพระ นอนคนเดียว ก็ปิดไฟแล้ว แต่ก่อนปิดไฟหยิบมาอ่าน แปลก! ไม่เคยรู้เรื่อง พออ่านกลับพอเข้าใจ จำได้ว่าเป็นหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาเล่ม ๑ ในนั้นมีเรื่อง ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา ก็อ่านไป แปลก! ใจมันไหลเข้าใจเอง ก็อ่านไปหน่อยเดียวปิดไฟนอน นอนก็เอามาใคร่ครวญพอใจสบาย ๆ ยังไม่หลับตา นอนเล่น ๆ อยู่ ๆ มีแสงสีเหลืองอ่อน ๆ ออกมาจากพระพุทธรูปที่อยู่หัวนอน สว่างออกมา พี่ก็มอง มีได้ไงไม่เคยเห็น
สว่างมากพอสมควร แสงสีเหลืองอ่อน แปลกใจว่านี่แสงอะไร ก็จ้องมอง มองนานมาก สงสัยเลยเอามือไปแกว่งที่แสง สักพักแสงหายไปเอง ก็กลับมานอน นอนไปก็คิดไป อัศจรรย์ดีไม่เคยเห็นมาก่อน แสงออกจากพระพุทธรูป เรามองด้วยตาเปล่า ๆ เห็นชัด ๆ ก็นึกในใจ พระศาสนามีอะไรน่าสนใจน่าศึกษา นับแต่นั้นมา เริ่มสนใจจริง ๆ จัง ๆ อยากรู้ ในหนังสือมีเรื่องนรกสวรรค์ ใจเริ่มสนใจอยากเห็น ฟังเขาพูดว่า นรกสวรรค์มีพระท่านสอน เราฟังไม่เถียง แต่ในใจคิดเอาไว้ ไว้เจอแล้วจะเชื่อ
ก็พอดีที่วัดใกล้บ้าน พี่ชายแนะนำหลวงพี่ท่านหนึ่งว่า เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ พี่เอาเลยเข้าไปหาท่าน ถามท่านตรง ๆ ภาวนาทำไง นับแต่นั้นเหมือนเป็นลูกศิษย์ จากไม่อยากเข้าวัดเข้าเกือบทุกวัน ท่านก็สอน แล้วชวนไปฝึกมโนมยิทธิที่ซอยสายลม ปี 26 ก็ได้ไป ไปฝึก คนเยอะมาก งงเหมือน ๆ กัน ก็ขึ้นไปฝึก ครูฝึกบอกให้ภาวนา นะมะพะธะ ก็ทำตาม พอครูเข้ามาสอนมโนมยิทธิ เขาให้หยุดภาวนาให้นึกถึงพระ เราก็นึกถึง เขาถามว่าเห็นท่านมาไหม ตอนนั้นก็ฟังหลวงพ่อสอนแนะนำก่อนฝึก มโนมยิทธิคือความรู้สึกของใจคล้ายตาทิพย์ ท่านให้ใช้ความรู้สึกของใจ เราก็ใช้ 55 ใช้อะไร พอครูถามเห็นไหม หลับตาไม่เห็นอะไรพยายามเอาตาเพ่ง เก่งน้อ หลับตาแต่เอาตาเพ่ง 55 เนี่ยโง่ หลวงพ่อท่านสอนให้ใช้ความรู้สึก เรากลับเอาเพ่งหา หาพระอยู่ตรงไหน 55 ตอนครูถามว่า มีมาอยู่ตรงหน้าไหม เออ..เพ่งหาจนปวดตาข้างใน เส้นประสาทเริ่มตึง เครียด ร่างกายมันเกร็งจนปวดหัว พอครูถามก็บอกไม่เห็น ก็เห็นยังไงเอาตาเพ่ง 55 ก็คิดในใจ ถ้าฝึกไม่ได้ ไม่มาอีกแล้ว เนี่ยโง่ธรรมดาไม่พอ โง่มาก 5555
พอคิดในใจขอพักหน่อย ปวดหัว ไม่สนใจว่าจะได้ไม่ได้ ปล่อยใจสบาย ๆ ใจนึกถึงพระธานที่วัดใกล้ ๆ บ้านปางป่าเลไลย์ ชอบไปไหว้ท่าน พอนึกถึงท่าน ในใจอยู่ ๆ เห็นภาพพระพุทธรูปลอยมา ลอยมา หา ก็บอกครูว่า ผมเห็นแล้วครับ ตอนนั้นไม่ใช่ตาเพ่งแล้ว ปวดตา 55 มีแต่ใจสบาย ๆ ในใจนึกถึงพระ กลับเห็นเองในความรู้สึกในใจ มีภาพพระลอยมาหาชัดพอสมควร ครูแนะนำให้ขอบารมีพระท่านพาเราไปพระจุฬามณี ในใจเราน้อมขอท่านในใจ เห็นท่านลอยขึ้นไป แปลกดี ใจเรารู้สึกลอยตามท่านไป ในความรู้สึกเห็นเป็นเจดีย์สีทอง แต่ไม่ชัดมาก เข้าไปในพระจุฬามณี เห็นพระพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ที่แท่น เป็นพระวิสุทธิเทพเป็นทองผสมแก้ว ตอนนั้นเห็นอย่างนั้นแต่ไม่ชัดมาก เป็นครั้งแรกของชีวิตพี่ที่ได้เห็นองค์ท่าน ก็เข้าไปกราบพระบาทพระองค์ท่าน สุขใจ สุขใจแบบไม่เคยมีมาก่อน ใจเราเวลาอยู่กับพระองค์ท่าน ในใจเรากลับรู้สึกสงบเย็นสุขใจอบอุ่นใจเองจริง เนี่ยไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ใจของเราอยู่กับพระองค์ท่าน จิตเรากลับรู้สึกสงบเย็นอบอุ่นสุขใจเอง
แต่ตอนนั้นยังโง่มาก ๆ ยังไม่มีอย่างในวันนี้ ที่อยู่จริงในใจพระองค์จริงอย่างเดียวจริงพอแล้ว เห็นชัดด้วยตัวของตัวเองจริง ใจอยู่กับใจพระท่านจริง ดีที่สุดของใจเราจริง ไม่ต้องทำอะไรทั้งหมด ใจสุขใจที่สุดของใจเราจริง ใจพระองค์ท่านเป็นใจที่สงบสุขอบอุ่นใจจริง ใจเราอยู่กับใจท่านจริง ใจเรารู้สึกสุขใจที่สุดจริง จริงของใจเราจริง จึงพอแล้วในสิ่งนี้ของใจตนจริง รู้จริงด้วยใจเราจริง นี่คือจริง จริงที่สุดจริง จริงของความจริง..จริง จริงในนิพพานจริง ใจสุขใจในใจพระท่านจริง ใจสุขใจนี้คือสิ่งที่มีจริง จริงในความจริง..จริง หนึ่งเดียวจริง นอกนั้นมันไม่ใช่ของจริงไม่ใช่ความจริง ไม่ใช่ตัวใจจริง ไม่ใช่สุขจริงของใจจริงๆ..จริง ขันธ์ ๕ ร่างกายมันไม่ใช่ตัวเราจริง สุขจากร่างกายนี้ไม่มี สุขจากภายนอกทั้งหมดไม่มี สุขจากความเป็นคนในโลกนี้ไม่มี สุขจากการเกิดเป็นเทวดานางฟ้าพรหม สุขจริง ๆ คงที่จริง ๆ ในสิ่งนี้ไม่มี
มีที่เดียวของใจเราจริงคือใจ ใจสุขใจจริงคงที่จริง สุขใจที่สุดจริงและเป็นของจริง เป็นความจริงที่สุดจริง คือใจ ใจสุขใจในความดีของใจพระท่านจริง ใจสุขในนิพพานจริง ใจสุขใจในความรู้สึกจริงของใจเราจริง ในความรู้สึกว่าง ๆ อิสระ สงบเบิกบานของใจ ใจในใจของตัวใจเราเองจริง ใจจบจริงที่ใจ ใจมีจริงแค่ใจ ใจในภายใน ในความรู้สึกว่าง ๆ สงบเย็นอิสระ เบิกบาน สบายใจของตัวใจเราเองจริง ใจจบจริงที่ใจ ใจสุขใจของใจพระท่านจริง จบจริงที่ใจพระองค์จริง ในความดีของใจพระท่านจริง ใจในความรู้สึกสุขใจในใจพระท่านจริง ใจสงบสุขใจนี้ ดีที่สุดจริง จริงของใจเราเองจริง
วันนี้รู้สึกอยู่แค่นี้ในใจ ใจของใจตัวเองจริง กว่าจะชัดใจจริง ปี 26 ถึงปี 58 32ปีพอดี วันนี้ในความรู้สึกของใจในใจเราเห็นชัด ใจกับกายมันเป็นคนละส่วนกันจริง ตัวเราจริง ๆ คือใจ ตัวเราจริง ๆ มีจริงแค่ใจ ใจในความรู้สึกว่าง ๆ สงบ เย็น อิสระ เบิกบาน สิ่งนี้คือตัวของเราเองจริง จริงในความจริง..จริง นอกนั้นมันเป็นส่วนของขันธ์ ๕ ร่างกายของมันหมดทั้งสิ้น มันไม่มีอะไรเป็นเราเป็นตัวเราเป็นของ ๆ เรา เราไม่มีในมัน มันไม่มีในเรา เรารู้เห็นชัดแจ้งใจของใจเราเองจริง ใจคือเรา เราคือความรู้สึกว่าง ๆ ในภายในลึก ๆ ของใจ ใจในใจของตัวใจเราเองจริง ใจสุขใจที่สุดคือใจสุขใจในความดีของใจพระท่านจริง วันนี้เราเห็นของใจของเราจริง แค่นี้เองจริง ๆ ใจสุขใจในใจพระท่านจริงคือจริง จริงที่สุดจริง จริงในความจริง..จริง จริงในพระนิพพานจริง เราเอาของ ๆ เราในสิ่งนี้จริงของใจเราจริง จริงอย่างเดียวจริง ใจเราจึงอยู่ของ ๆ เราในใจสุขใจของใจพระท่านจริงด้วยใจมั่นใจจริง มั่นคงจริง สุขใจจริงในความดีของใจพระท่านจริง จริงในใจของใจพระองค์จริง จริงอย่างเดียวจริง จริงของใจเราเองจริง
วันนั้นปี 26 ฝึกมโนมยิทธิครั้งแรกยังไม่ชัดใจตัวเองอย่างนี้ เพียงได้พบพระองค์ครั้งแรกในความรู้สึกของใจ แต่เราก็รู้สึกถึงใจพระองค์ท่าน ใจพระองค์ท่านทรงสงบอบอุ่นสุขใจจริง เราสัมผัสในใจพระองค์ คนอื่นเขาฝึกยังไงเอายังไงพี่ไม่รู้ พี่แปลกดี ใจกลับสนใจในความรู้สึกในใจพระท่าน ใจเราเลยสัมผัสใจในภายในของใจพระองค์ได้เอง แปลกดี ตอนนั้นไม่รู้ตัว ใจจึงรู้สึกสงบสุขใจของใจเราเองจริง แล้วพระองค์ท่านก็พาใจเราลอยไปที่พระนิพพานที่วิมานของท่าน ครั้งแรกน้อ ในความรู้สึกไม่มีข้างฝา เห็นเสาสีทองผสมแก้ว เห็นพระองค์ท่านทรงประทับในวิมาน พี่ก็อยู่กับท่าน ใจตอนนั้นเรารู้สึกสงบเบาสบายใจที่สุด สุขใจบอกไม่ถูก พอดีหมดเวลาครูฝึกให้กราบลาพระท่านแล้วลงมา
ตอนนั้นครั้งแรก ก็ยังไม่รู้และเข้าใจอะไรมาก เห็นวิมานไม่มีข้างฝาห้องก็นึกในใจ เราคงทำบุญวิหารทานมาน้อย ลงมาข้างล่างที่หลวงพ่อท่านรับแขก ก่อนเข้าไปกราบท่าน เงินมีเท่าไหร่ใส่ตู้วิหารทานเกือบหมดกลัวไม่มีข้างฝาห้องในวิมานตัวเองในนิพพาน 555 มารู้ตอนหลังอ่านเจอหลวงพ่อท่านบอก บนนิพพานวิมานไม่มีข้างฝาห้อง 55 เออ..เรา แต่ก็ทำให้มั่นใจขึ้นว่าที่ไปพบมา ของจริง
ตอนเข้าไปกราบหลวงพ่อครั้งแรก คนในห้องนั่งอยู่เต็ม ท่านจ้องมองพี่ตั้งแต่พี่เดินเข้าในห้อง คลานไปหาท่าน ท่านจ้องมองพี่ตลอด พี่ประหม่าเลย 55 ไปถึงท่าน หยิบซองทำบุญที่เตรียมไว้ จำได้ว่า 40 ซอง บุญอะไรที่รู้จากหนังสือหลวงพ่อเขียนหน้าซองทำหมด เข้าไปถวายท่าน ท่านให้พรเราก้มลงกราบได้แค่สองครั้ง 55 ประหม่าตื่นเต้น เจอท่านใกล้ ๆ ครั้งแรก
พอกลับมาบ้าน ใจยังนึกถึงตอนอยู่กับพระท่าน อยู่ที่นิพพาน จสุขอย่างนี้เอง เริ่มสนใจในนิพพาน ความจริงหามาตั้งแต่เด็ก ๆ ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิด อยู่ป ๔ กลับจากโรงเรียนมานอนเล่นใต้ถุนบ้าน อยู่ ๆ นึกในใจ นี่เราจะเรียนไปถึงไหน แล้วถ้าตายแล้วมาเกิดใหม่ก็ต้องกลับมาเรียนใหม่เป็นอย่างนี้เรื่อย ๆ แล้วเมื่อไหร่มันจะจบจะสิ้นของมัน แปลกดีอายุน้อย ๆ อยู่ กลับคิดขึ้นมาเอง
เลยรู้สึก นี่เกิดมาทำไม เริ่มไม่อยากเกิด แต่โง่มาก ๆ ตอนนั้น ไปโทษพ่อโทษแม่ที่ทำให้เราเกิด กว่าจะแจ้งชัดใจ เกิดเพราะเราโง่เอง เกาะยึดร่างกายเอง จิตมีความอยากเอง
ตอนนั้นเด็กไม่รู้อะไร โทษพ่อโทษแม่ที่ทำให้เกิด ใจไม่เกิดแต่ไม่รู้ไม่เกิดจะไปอยู่ที่ไหน เพิ่งมันพอรู้ก็เนี่ย ปี 26..นิพพาน แต่แค่เริ่มสนใจ ก็ได้ไปฝึกมโนมยิทธิ เนี่ยสำคัญ ที่หลวงพ่อท่านเอามาสอนมโนมยิทธิ ทำให้จิตของเราแจ้งใจชัดกว่าอ่านหนังสือหรือฟังพระท่านเทศน์ เราได้พบสิ่งนี้ในคำสอนของพระท่านจริง ด้วยตัวของตัวเราเองจริง
นึกย้อนลงไป หลวงพ่อคือผู้มีคุณอย่างยิ่งของใจเราจริง ไม่มีท่านวันนี้คงไม่มีเรา วันที่ใจของเรา สุขใจในใจเราจริง ขอน้อมกราบแทบเท้าหลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง พระคุณของพ่อยิ่งใหญ่สุดจะพรรณา ท่านให้ชีวิตใหม่ มีทางเดินจริง จริงตามพระพุทธเจ้าท่านจริง
แม้คืนนั้นหลังจากกลับมาจากฝึกมโนมยิทธิที่ซอยสายลมครั้งแรก กลางคืนพี่นอนหลับ ฝันเจอหลวงพ่อท่านมาที่บ้านพี่ มาเทศน์เรื่องพระนิพพาน ในห้องมีพี่กับท่านสองต่อสอง ในฝันท่านเทศน์แต่เรื่องนิพพานอย่างเดียวจริง และฝันอย่างนี้ติดต่อกัน 7 วัน จนจิตพี่พอใจในสิ่งนี้จริง ตั้งใจนับแต่นี้ไปเราจะทำทุกอย่างเพื่อไปพระนิพพาน รักษาศีล ๕ จริง ๆ จัง ๆ ยุงกัดก็ไม่ตบเอามือปัดไล่ไป ทุกอย่างรักษาศีล ๕ ด้วยใจ ใจต้องการพระนิพพานอย่างเดียวจริง
นี่ความเมตตาของหลวงพ่อท่าน ท่านมาเข้าฝันจนจิตตั้งใจเอานิพพานจริง ๆ จัง ๆ จริง เริ่มตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา ทำบุญทำอะไร ตั้งจิตมุ่งพระนิพพานอย่างเดียวจริง จริงของใจเราเองจริง ศีลบริสุทธิ์มั่นใจ มั่นใจที่เจตนาจริงของใจตัวเองจริง ที่ไม่มีจิตคิดละเมิดศีลจริง พี่เอาของพี่ตรงนี้เป็นสำคัญ อย่างเดียวของใจพี่จริง ใจไม่มีจิตละเมิดศีลจริง เลยมั่นใจตัวเองจริงว่า ศีลของเราบริสุทธิ์จริง
นับแต่วันนั้นมา วันที่ใจเอาจริง รักษาศีลเพื่อไปพระนิพพานจริง จริงอย่างเดียวจริง จริงของใจเราจริง สิ่งนี้สำคัญนะ ต้องมาจากใจในความรู้สึกจริงของใจเราเองจริง เรารักษาศีลเพื่อไปพระนิพพานจริง จริงของใจเราจริง ด้วยใจเคารพจริง จริงในคุณพระจริง ด้วยเจตนาจริง ไม่มีจิตคิดละเมิดศีลของพระท่านจริง มาจากใจในสิ่งนี้ของใจตัวเองจริง จึงมั่นใจจริงว่าเราศีลบริสุทธิ์จริง จริงที่ใจเราจริง
ตอนนั้นประมาณปี 26-27 เริ่มเอาจริง ต้องการไปพระนิพพานจริง จริงของใจตัวเองจริง แต่ขาดความเข้าใจจริง จริงในธรรมจริง จริงของใจพระท่านจริง แต่อยากบอกว่า มโนมยิทธิมีส่วนสำคัญที่สุดของชีวิตเราจริง เปลี่ยนแปลงชีวิตทั้งหมด จากจิตคิดชั่ว มาเป็นจิตต้องการทำความดีเพิ่อไปพระนิพพานอย่างเดียวจริง ด้วยใจของใจเราเองจริง ไปสัมผัสจริงในสุขใจจริง จริงในแดนพระนิพพานจริง ใจเราได้พบพระองค์จริง รับรู้จริงในใจสุขใจของใจจริง ยามใจของเราได้อยู่จริงกับใจพระท่านจริง หมดสงสัยจริงในคำสอนของพระท่านจริงเองจริง ด้วยใจของเราพบด้วยตัวของตัวเราเองจริง ใช่..ผีมีจริง เจอมาหลายครั้งมาก ๆ ในชีวิต พบเทวดานางฟ้าพรหมชัด ๆ ท่านมาให้เห็นเอง จะ ๆ ต่อหน้าเลยหลายครั้งมากในชีวิตที่ผ่านมา นี่มาจากการได้ฝึกมโนยิทธินี้จริง
คุณของมโนมยิทธิมีคุณยิ่ง เปลี่ยนชีวิตของจิตของเราจริง พี่ได้ตรงนี้จากสิ่งนี้ที่หลวงพ่อท่านนำมาสอนนี้จริง มโนมยิทธิ
คุยต่อ เนี่ยทุกดวงจิตที่ท่านมาโมทนา ท่านก็ได้รับผลจากการฝึกมโนมยิทธิของเราเหมือนกัน เราได้สัมผัสใจทุกท่านได้ว่ามีท่านมากัน เราให้สิ่งที่ดีที่สุดของใจจริง คือใจ..ใจสุขจริงของใจในความดีของใจสมเด็จพ่อองค์ปฐมท่านจริง ใจพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์จริง ใจพระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์จริง ใจพระทุกดวงใจในนิพพานทั้งหมดจริง ด้วยใจ ใจเราถึงใจทุกท่านจริง จริงด้วยใจรักจริง จริงด้วยใจจริงใจจริง จริงด้วยใจเราให้ใจทุกท่านหมดใจจริง จริงด้วยความรู้สึกจริงของใจเราเองจริง ใจใช้ความรู้สึกของใจจริง มโนมยิทธิคือความรู้สึกของใจจริง ใจที่มั่นใจจริง จริงในความดีของใจพระท่านจริง ใจเข้าสู่ใจในภายใน ในความรู้สึกจริงของใจ ใจในใจ ใจพระท่านจริง จริงในใจพระทุกดวงใจในความรู้สึกจริงของใจเราเองจริง
พี่ทำของ ๆ พี่อย่างนี้จริง มโนมยิทธิคือใจ ใจในความรู้สีกจริงของใจ ในภายในของใจตนจริง ในความรู้สึกว่าง ๆ สงบเย็น อิสระใจ สงบสบายใจของตัวใจเราจริง ใจไม่สนใจร่างกายจริง จึงไม่สนใจในสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดจริง จริงในใจ ในภายใน ในความรู้สึกของใจเราจริง ใจสนใจจริง จริงในใจสุขใจจริงของใจพระท่านจริง ใจจับใจพระพุทธเจ้าจริง ใจเอาความรู้สึกจริงของใจ จับใจในภายใน ในความรู้สึกของใจพระองค์ท่านจริง ใช้ความรู้สึกว่าง ๆ ของใจ เข้าไปในใจของใจพระทุกดวงใจในนิพพานจริง จริงด้วยใจ ใจรักใจพระทุกดวงใจในนิพพานของใจเราเองจริง เข้าสู่เนื้อในใจท่านจริง ในใจสงบสุขใจจริงในใจนิพพานจริง จริงของใจพระทุกดวงใจในนิพพานจริง
มโนมยิทธิ พี่ใช้ของพี่อย่างนี้ ใช้ตรง ๆ ตรงสู่จริง จริงในความรู้สึกจริง จริงในใจสุขใจของใจพระท่านจริง ใครใช้มโนมยิทธิยังไงพี่ไม่รู้ วันนี้พี่ใช้ของ ๆ พี่อย่างนี้จริง ใจอยู่จริงในใจพระท่านจริง ในใจสมเด็จพ่อองค์ปฐมท่านจริง ในใจพระทุกดวงใจในนิพพานจริง จริงด้วยใจ ในความรู้สึกว่าง ๆ สงบเย็นใจ อิสระใจ สงบสบายใจของตัวใจเราเองจริง เข้าอยู่จริงด้วยใจมั่นจริงในความดีของใจพระท่านจริง อยู่จริงในใจสงบสุขจริงของใจพระท่านจริง ด้วยใจในความรู้สึกจริงของใจ ใจในใจเราจริง
มโนมยิทธิคือใจ ใจในความรู้สึกสงบสุขใจในความรู้สึกว่าง ๆ ในภายในของใจจริง มโนมยิทธิคือใจ ใจที่รักใจพระท่านจริง จริงหมดใจจริง ในความรู้สึกจริง จริงของใจเราจริง มโนมยิทธิคือใจ ใจที่มีใจ ใจเชื่อใจพระพุทธเจ้าจริง ใจเชื่อใจจริง จริงในความดีของใจพระทุกดวงใจในนิพพานจริง ใจใช้จริงแค่ใจ ในความรู้สึกจริงของใจ ใจในใจสุขใจของใจพระท่านจริง เราใช้ของ ๆ เราอย่างนี้จริง
เราไม่ได้อยากรู้อะไร เรารู้จริงในใจสุขจริงของใจพระท่านจริง จริงในพระนิพพานของใจท่านจริงพอแล้ว เรารู้ของ ๆ เราแค่นี้พอแล้ว พอในใจของใจเราจริงเองจริงพอ ใครอยากรู้อะไรเราไม่สน เรารู้แค่ใจ ใจของใจพ่อเราจริงพอ
นี่คุยในปัจจุบ้น ในอดีตคงไม่คุยแล้ว คุยไปคงยาว ต่างตนต่างมีประสบการณ์ของตัวเอง ก็ของใครของมัน เอาที่คุยตรงนี้ ตรงของพี่ที่ใช้ในทุกวันนี้ ในมโนมยิทธิของพี่จริง พี่ใช้จริงแค่ใจ ในความรู้จริงของใจจริง ไม่สนใจในเรื่องของภาพที่เห็น เอาความรู้สึกสุขใจจริงของใจจริง ๆ พอ เอาจริงแค่ใจ ใจถึงจริงในความดีของใจพระท่านจริง จริงในภายในของใจพระจริง จริงในความรู้สึกสุขใจของใจท่านจริง ๆ พอ
ท่านเคยมาบอกพี่ว่า ลูกรู้จากใจพ่อก็พอแล้ว เราจึงไม่อยากรู้อะไรในสิ่งใด ในเรื่องอะไร ๆ ทั้งหมดของใจเราจริง สิ่งใดพ่อให้รู้ เอาแค่นั้นจริง รู้จากใจ ใจสงบสุขใจของใจท่านจริงพอ มโนมยิทธิจริง จริงที่ใจ ใจสุขจริงของใจพระท่านจริง ใจรู้ใจในสิ่งนี้ของใจท่านจริงพอ แล้วทุกเรื่องท่านทรงบอกเราเอง ในความรู้สึกของใจเราเองจริง มาเอง รู้เอง รู้จากใจ ใจในใจ ใจพระองค์ท่านจริงเองจริง..จริง
เรามีจริงแค่ใจ ใจสงบสุขใจใจในความดีของใจพระท่านจริงพอ สิ่งนี้จริงของใจ เป็นใจ ใจสุขใจของใจจริง จริงในความจริง..จริง จริงในสิ่งที่ดีที่สุดจริง จริงของใจเราจริง ทุกอย่างมาเองรู้เอง จากใจ ใจในใจ ใจพระท่านเองจริงพอแล้ว จิตนี้สุขใจจริงด้วยความดีของใจพระองค์จริง จิตนี้ถึงนิพพานจริงเองจริง ด้วยใจ..ใจสุขใจจริง จริงในความดีของใจพระองค์ท่านจริง ใจสัมผัสใจจริง จริงในใจสุขใจของใจพระท่านจริง ด้วยใจ ในความรู้สึกจริงของใจ ใจในใจเรา...จริง นี่มาจากผลของมโนมยิทธิจริง
มโนมยิทธิคือความรู้สึกของใจคล้ายตาทิพย์ เห็นคือใจ ใจคือความรู้สึก มโนมยิทธิคือใจ ใจเห็นจริงด้วยใจ ในความรู้สึกจริงของใจ ในใจสุขใจจริง จริงในความดีของใจพระท่านจริง มโนมยิทธิจริง จริงต้องจริงที่ใจ ใจเชื่อใจพระพุทธเจ้าจริง ไม่สงสัยจริงในความดีของใจท่านจริง ใจมั่นใจจริง ใจสงบสุขใจจริง จริงในความดีของใจพระท่านจริง ใจใครมีจริงในสิ่งนี้ของใจตนจริง คือถึงที่สุดจริง จริงของมโนมยิทธิจริง จริงที่ใจ ใจสงบสุขจริงของใจ ใจในความดีของใจพระจริง จริงในพระนิพพานจริง จริงในใจพระทุกดวงใจในนิพพานของใจทุกท่านจริง ใจถึงจริงในความจริง จริงที่ใจ ในภายในของใจจริง จริงในความดีของใจพระท่านจริง ใจเราจึงถึงจริง จริงในมโนมยิทธิของท่านจริง
พี่คุยของพี่ยั่งงี้น้อ คุยเพลิน ๆ สบาย ๆ ของพี่ อาจไม่ตรงกับใครก็ขอขมาด้วยนะจ๊ะ ถือว่าคุยสนุก ๆ เพลิน ๆ ใจไป
คุยตามหัวข้อท่านให้มา ตื่นมามีคำนี้ขึ้นมา "มโนมยิทธิ" ก็คุยอ่านแล้วน้อ
ทุกวันนี้ไม่อยากรู้อะไรแล้ว ใครมาถามอะไร บอกตรง ๆ ไม่รู้ โง่เหมือนควายจริง ๆ ถ้าคุยธรรมน่ะได้ ธรรมมาจากใจพระท่านจริง ใจใครมีบุญจริง สิ่งนี้มาเอง มาจากใจพระท่านเอง พี่ก็คุยจากใจของท่านจริง จริงในใจสุขใจจริง จริงของใจพระท่านจริง จริงในความรู้สึกจริงของใจนี้อย่างเดียวจริง เราเอาธรรมเป็นใหญ่ เราให้ความจริง..จริง ใครมามีใจตั้งใจจริง มีวาระของบุญจริง เราจะคุยน้อ
สำคัญ มโนมยิทธิคือใจ ในความรู้สึกสุขใจจริง จริงในความดีของใจพระท่านจริง ใจคนได้จริง จริงที่ใจ ใจมีจริง ใจเชื่อใจพระพุทธเจ้าจริง รู้เอง รู้จริง รู้ตรง ถึงจริง ใจถึงจริง จริงในความดีของใจพระจริง นิพพานเอง
จ๊ะ อย่าทิ้งมโนมยิทธิกันนะ นี่คือทั้งหมดของชีวิตของใจเราจริง ใครฝึกแล้วทิ้ง เท่ากับทำลายความดีของใจตัวเองจริง ทำลายความดีของใจพระท่านจริง ความดีความสุขใจจริง จริงของใจ ใจในใจเราจริง
จ๊ะ ก็บอกได้แค่นี้ สำคัญจริง เป็นทางเดินจริงของใจ ใจถึงจริง จริงในใจพระท่านจริง
มโนมยิทธิคือความรู้สึกจริงของใจ ใจสงบสุขใจในความดีของใจพระท่านจริง แล้วทุกอย่างดีเอง ท่านทรงพระเมตตาใจเราเอง ลูกรู้จากใจพ่อก็พอแล้ว คำนี้จะชัดใจในใจของใจทุกคนจริงเอง
ไปฝึกไปซ้อม ๆ มโนมยิทธิกัน ร้านสุรวงศ์ที่ท่านให้ทำ ความสำคัญจริงคือตรงนี้ กรรมฐาน เป็นที่ฝึกใจคนให้ถึงจริง จริงในความดีของใจพระองค์จริง ในใจสุขจริงของใจพระองค์จริง ฝึกจิตให้มั่นคงจริง จริงในความดีของใจพระท่านจริง เจตนาจริง ๆ มีแค่นี้ ในการทำร้านสุรวงศ์จริง สมเด็จพ่อองค์ปฐมทรงสั่งให้ทำ
จ๊ะ ใครว่างก็ไปกัน เป็นที่พักใจกัน เป็นที่สงบสุขใจสบายใจกัน เป็นที่ซ้อมฝึกมโนมยิทธิกัน สองปีกว่าที่คุยในกลุ่มเราทุกวันก็นี่แหละ ฝึกจิตของคนบางคนให้มีใจ ใจถึงใจพระท่านจริง แล้วเอามาช่วยงานของพระท่าน ใจที่ถึงจริง จริงในใจพระท่านจริง ใจคนนี้ช่วยงานพระท่านจริง ได้จริง พี่ถึงคุยทุกว้น ป่วยไม่สบายก็คุย เข้าใจกันน้อ
งานของพระคืองานใจ ใจสุขใจที่ใจในใจกันจริง จงรักษาใจของตนให้มั่นคงจริง จริงในความดีของใจพระองค์จริง ใจสุขใจจริงในความดีของใจพระท่านจริง ใจเธอจะมีที่พึ่งที่ดีที่สุดคือใจสุขใจจริงของใจเธอจริง แล้วใจของเธอจะช่วยงานพระท่านจริง ได้จริง ขอฝากงานของพ่อเรากับทุกคนด้วยนะ ใจของท่านรักทุกดวงจิตจริง ท่านทรงทำให้เราทุกคนมามากแล้ว สนองคุณท่านกันเป็นชาติสุดท้ายกัน ขอบคุณทุกคนนะ
ช่วยกัน รักกัน สามัคคีกัน เดินใจไปด้วยกันกับใจของใจพ่อเราจริง ๆ กัน รักกันน้อ ขอบคุณครับ
มโนมยิทธิคือใจ ใจในความรู้สึกจริงของใจจริง ใจสุขใจจริง จริงในความดีของใจพระท่านจริง มโนมยิทธิคือความรู้สึกของใจคล้ายตาทิพย์ ทิพย์จริงในใจ ใจสงบสุขใจจริง จริงในความดีของใจพระท่านจริง จริงในนิพพานจริง จริงของใจพระท่าน จริง
พอเข้าใจน้อ คำนี้ มโนมยิทธิคือความรู้สึกจริงของใจ ใจสุขใจในความดีของใจพระท่านจริง ใจไปที่ใดของใจเราจริง จงไปด้วยใจในความรู้สึกจริงของใจ ใจในใจสงบสุขใจจริง ในความดีของใจพระท่านจริง อย่าสงสัยในความรู้สึกในสิ่งนี้ของใจตนจริง ใจเชื่อใจพระพุทธเจ้าจริง จบตรงนี้ของใจเราจริง ใช้ความรู้สึกของใจนี้ วางใจตามพระท่านจริง มโนมยิทธิชัดเอง ชัดใจในใจเราเองจริงนะจ๊ะ ฝึกอย่างนี้กัน ใครว่างก็ไปกันน้อ
ซ้อม ๆ ฝึกกันที่ร้าน ครูฝึกสำคัญ อย่าทิ้งความดีของใจพระท่านจริงพอแล้ว ฝากด้วยนะ ช่วย ๆ กัน มโนมยิทธิของพี่จริง ๆ มีแค่นี้ สุขใจในใจพระท่านด้วยความรู้สึกจริงของใจเราจริง ใจพี่เอาแค่ธรรม ธรรมจริงจากใจพระท่านจริง พาใจคนพ้นจากทุกข์ของจิตเขาจริง ในใจพี่เอาแค่นี้ ก็น้อ ใครถามเรื่องอื่น..ก็น้อ..55..ไม่เอา เข้าใจพี่นะ จะรู้อะไรฝึกเอง
ให้ถึงในคำนี้จริง "มโนมยิทธิคือความรู้สึกจริงของใจ" คำนี้เอาให้ชัดใจ แล้วฝึกได้เอง
มโนมยิทธิคือจิตสงบจริงในธรรมจริง จริงในความดีของใจพระท่านจริง จริงในความรู้สึกจริงของใจ ใจสงบสุขใจในความรู้สึกของใจ ใจในใจ ใจพระท่านจริง
มโนมยิทธิคือความรู้สึกของใจคล้ายตาทิพย์ ทิพย์ของจิต ที่มั่นคงจริง เชื่อใจจริง จริงในใจของใจพระท่านจริง
======================
*ประชาสัมพันธ์* วันนี้ (เสาร์ที่ 12 ก.ย 58) มีฝึกมโนมยิทธิที่ร้านรวยมงคลเจริญ ณ บ้านสุรวงศ์ เวลาประมาณ 16:00 น. ใครสนใจเรียนเชิญนะครับ ตามแผนที่นี้ http://goo.gl/maps/7k2OX หรือโทรติดต่อได้ที่ 0-2634-3199 , 08-9794-0100
จาก เฟสกลุ่มมงคลธรรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น